5 ข่าวลือของแม่ทัพเฉิน

จันทร์กระจ่างฟ้าหมอเทวดาหรือนางพญาพิษ 1533 words 2022-12-13 06:55:45

ด้านนอกนั้นมิได้สงบเงียบเช่นในจวน ท่านแม่ทัพเฉินอวี้อันกลับถึงเมืองหลวงเพียงวันเดียวก็มีคำเล่าลือถึงแม่ทัพวัยกลางคนที่ครองตัวเป็นโสดเลยวัยที่จะมีครอบครัวไปเนิ่นนานนำสตรีเยาว์วัยใบหน้างดงามอายุคราวลูกเข้าจวน ชาวบ้านได้เห็นการเดินทางกลับเข้าจวนอย่างรีบเร่ง

“ตาเฒ่าเจียง ข้าเห็นท่านแม่ทัพเฉินขี่ม้าพาสตรีตามกันมานางหนึ่ง ใบหน้างดงามเชียวนะ”

“เจ้าอย่าพูดมั่วสั่ว จวนท่านแม่ทัพแทบจะไม่มีคนอยู่นั่นนะหรือจะมีสตรีสวยๆ ย่างกายเข้าไป”

“ท่านไม่ต้องเถียงข้าเห็นด้วยตาตนเองเมื่อวานนะพวกเขาพากันมาแล้วก็เข้าจวนไปจริงๆ”

“ข้าเปิดร้านขายน้ำชาอยู่ตลอดไม่เห็นจะมีสตรีเดินเข้าออกให้ข้าได้เจอสักคน จวนท่านแม่ทัพมีแต่บ่าวรับใช้อายุมากแล้วทั้งนั้นแต่ละคนข้าก็รู้จัก”

“ไอ้หยา แต่ข้าเห็นจริงๆ นะ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นอนุที่ท่านแม่ทัพไปเจอในเมืองอื่นก็ได้นี่ ถ้าไม่ได้ออกมางั้นก็ต้องใช่แน่ๆ “

แน่นอนในร้านน้ำชาไม่ได้มีแค่คนสองคนที่คุยกัน คนอื่นๆ ที่เป็นลูกค้าก็ชื่นชอบข่าวลือเช่นกันพากันร่ำลือกันสนุกสนานปากต่อปากข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็ไม่ได้สนใจ คนแรกก็ว่าอนุจากนั้นปากต่อปากก็ว่าภรรยาวัยเยาว์ กลายเป็นข่าวที่ผู้คนให้ความสนใจดังทั่วทุกตรอกซอกซอย ว่าแม่ทัพผู้แข็งแกร่งปกป้องบ้านเมืองลุ่มหลงสตรี สตรีนางนี้เป็นใครและยิ่งไม่มีใครรู้จักก็ยิ่งได้รับความสนใจสืบเสาะว่าเป็นลูกสาวบ้านใดยิ่งกลายเป็นข่าวดังในข้ามคืน

ในวังหลวงห้องทรงพระอักษร บริเวณรอบนอกมีองครักษ์คุ้มกันแน่นหนากระจายตัวอยู่ทั่วไป หน้าประตูมีขันทีน้อยยื่นคอยรับใช้ด้านใน หลี่ซื่อหลงผู้อยู่ในวัยฉกรรจ์ก้มหน้าอ่านฎีกาเบื้องหน้ามีกองฎีกาอีกหลายม้วนที่กองรออยู่  ข้างโต๊ะขันทีร่างผอมบางอายุราวสี่สิบกว่าปียืนฝนหมึกอยู่ด้านข้าง

“ฉีกงกง ยามนี้แล้วแม่ทัพเฉินอยู่ที่ใด”

“ทูลฝ่าบาท หลังประชุมเช้าท่านแม่ทัพมิได้เข้ามาเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”

“..........”

              ปกติในยามที่เฉินอวี้อันอยู่ในเมืองหลวง ส่วนใหญ่หลังประชุมเช้าจบลงมักมิได้กลับจวนเช่นขุนนางอื่นๆ เขามักจะมารอเพื่อถวายคำปรึกษาให้กับฮองเต้ในห้องทรงอักษร วันนี้เป็นวันที่สองหลังจากกลับมาควรจะมาได้แล้ว เขาได้ยินจากขันทีเล่าข่าวลือว่าแม่ทัพผู้กล้าแกร่งตัดสินใจนำสาวงามเยาว์วัยติดตามกลับมาในครานี้ด้วย ไม่มีใครได้พบเห็นตัวนางไม่มีใครทราบรายละเอียดว่าจริงๆ แล้วเป็นเช่นใคร เขาเองก็รอเจ้าตัวเข้ามาหาเช่นกัน

“ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพเฉินขอเข้าเฝ้าพะยะค่ะ”

“ฉีกงกง”

“เชิญท่านแม่ทัพเข้าเฝ้า”

 เสียงแหลมสูงของขันทีดังขึ้น เฉินอวี้อันก็ย่างเท้าเข้ามาภายในห้องทันที

“ข้าคิดว่าวันนี้เจ้าจะไม่มาให้ข้าเห็นหน้าเสียแล้ว” 

“ฝ่าบาท ข้าพระองค์เดินทางกลับมาถึงเมืองหลวงเพียงวันเดียวนะพะยะค่ะ ยังมิได้หยุดพักเมื่อวานไปรายงานตัวที่กองทัพหลังจัดการกิจธุระในกองทัพ วันนี้เข้าร่วมประชุมในท้องพระโรงเสร็จก็รีบมาเข้าเฝ้าที่นี่เลยนะพะยะค่ะ" 

เฉินอวี้อันใช้สองมือประคองกล่องขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือก้าวเข้ามาวางไว้บนโต๊ะเบื้องหน้าฮองเต้หนุ่มทันทีที่วางเรียบร้อยแล้วเขาก็ก้าวถอยกลับไปยืนที่เดิมระหว่างนั้น เฉินอวี้อันรู้สึกได้ถึงสายตาที่จับจ้องราวกับกำลังเจาะทะลุผ่านลำตัวได้ทีเดียว

“เรารู้แล้ว เจ้าไม่ต้องโอดครวญ ช่วงที่ผ่านมาลำบากเจ้าแล้วนะ ได้ข่าวว่าถูกลอบสังหารตลอดเส้นทางเจ้าเก่งมากนะที่เอาชีวิตรอดกลับมาได้และยังสามารถนำลัญจกรราชวงศ์เก่ากลับมาจนได้ เจ้ารับสิ่งนี้ไปจากนี้เจ้าสามารถสั่งการองครักษ์มังกรดำได้”

“ฝ่าบาททรงทำเช่นนี้ิมิได้พะยะค่ะ องครักษ์มังกรดำเป็นสิ่งที่ใช้พิทักษ์รักษาความปลอดภัยของฮองเต้ทุกรัชสมัยสมควรขึ้นตรงกับฝ่าบาท ข้าพระองค์รับมามิได้ โปรดพระราชทานสิ่งอื่นเป็นรางวัลเถิดพะยะค่ะ”

“ฮ่าฮ่าฮ่า เจ้ามิทำให้เราผิดหวังเลย หากเป็นขุนนางคนอื่นคงรีบรับไปทันที เอาเป็นว่าเรามอบกิเลนหยกหนึ่งคู่ ทองหนึ่งหีบ เงินหนึ่งหีบ ผ้าไหมสิบพับแล้วกัน”

“ขอบพระทัยพะยะค่ะ”

“ฝ่าบาท ไม่ทราบว่าวันนี้มีกิจใดเร่งด่วนที่จะให้หม่อนฉันไปทำหรือไม่พะยะค่ะ”

“อืม งานของเราก็มีมากมายก่ายกองดังที่อยู่เบื้องหน้าเจ้า เจ้าว่าอย่างไรหล่ะ”

“คือว่า กระหม่อมได้รับบาดเจ็บไม่น้อยอยากกลับจวนไปพักพะยะค่ะ”

“เฉินอวี้อัน เจ้ามีอันใดปกปิดเราอยู่หรือไม่” 

บุรุษชุดทองเบื้องหน้าส่งเสียงถามทำให้เฉินอวี้อันรีบเงยหน้าขึ้นสบตากับคนเบื้องบนที่ใช้ตาเรียวคมมองจ้องมาอย่างจับพิรุธ เฉินอวี้อันอดที่จะไตร่ตรองดูว่าเหตุใดสายตาของฮองเต้จึงมองตนเช่นนี้ ตนเองก็มิได้มีสิ่งใดๆ ที่กระทำผิดหรือปกปิดเบื้องบนเหตุใดจึงถูกเพ่งมองไม่ละสายตาเช่นนี้ เหงื่อเย็นๆค่อยๆไหลจนรู้สึกเปียกแผ่นหลัง

“ฝ่าบาท กระหม่อมมิได้ปกปิดสิ่งใด ไม่ทราบว่าพระองค์มีพระประสงค์อยากรู้สิ่งใดได้โปรดรับสั่งเถิดพะยะค่ะ”

“เราแค่สงสัยและสนใจใคร่รู้ วันนี้บังเอิญเหลือเกินที่ด้านนอกมีข่าวพูดกันว่า เจ้าพาสตรีนางหนึ่งกลับจวนมาด้วยว่ากันว่าเป็นผู้ที่มีใบหน้างดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เป็นลูกสาวบ้านใด เจ้าคิดจะตบแต่งภรรยาเยาว์วัยอย่างที่ข่าวลือเขาพูดกันอยู่หรือไม่ บอกมาหากเป็นเรื่องจริง เราจะได้จัดเตรียมของขวัญ” 

“ความจริงมิได้เป็นเช่นนั้นเลยพะยะค่ะฝ่าบาท กระหม่อมนำสตรีกลับมาด้วยเป็นความจริงแต่นางคือเด็กสาวผู้หนึ่งเท่านั้น นางคือผู้ช่วยชีวิตหม่อมฉันไว้ยามที่ถูกคนร้ายลอบสังหาร ฝ่าบาทบัดนี้หม่อมฉันก็ได้รับนางเป็นบุตรบุญธรรมเรียบร้อยแล้ว ด้วยกระหม่อมเป็นคนหยาบกระด้างตามนิสัยของทหารการจัดพิธีการที่วุ่นวายนั้นไม่เคยอยู่ในความคิดของกระหม่อน จึงมิได้ป่าวประกาศเรื่องนี้ให้กับผู้ใดทราบพะยะค่ะ” 

เฉินอวี้อันเหงื่อตกแล้วจริงๆ ยามนี้ต้องอธิบายเพื่อไขข้อสงสัยของฮองเต้ นี่พระองค์ทรงสนพระทัยในเรื่องส่วนตัวของขุนนางด้วยหรือ ปกติมิเห็นเคยสนใจติดจะเย็นชากับทุกๆเรื่องเกี่ยวกับเรือนหลังของขุนนางปล่อยให้เป็นเพียงลมผ่านหูตลอดมา ยามนี้ออกจะมิปกติจริงๆ

“เช่นนั้นยามนี้เด็กสาวคนที่ผู้คนเล่าลือ คือคุณหนูจวนแม่ทัพเจ้าสินะ” 

น่าสนใจยิ่งนักเด็กสาวคนนี้แตกต่างจากคนอื่นเช่นไรจึงสามารถทำให้บุรุษหยาบกระด้างทั้งทึมทือในเรื่องครอบครัวสนใจนางจนยอมรับออกปากเป็นบุตรบุญธรรมได้ ถ้ามีโอกาสพระองค์อยากพบสักครา

“ดังนั้น วันนี้กระหม่อมจึงอยากรีบกลับไป บุตรสาวบุญธรรมของข้าพระองค์เป็นเด็กสาวที่เติบโตในป่าเขานางพึ่งเข้ามาอยู่ในเมืองหลวงยังไม่คุ้นกับที่ทางและผู้คน”

“เจ้ากลับไปได้ เราอนุญาต วันหลังหาเวลาที่เหมาะสมพานางมาให้เราเห็นสักหน่อย”

“รับด้วยเกล้า กระหม่อมทูลลา” 

เหงื่อที่หลังของเฉินอวี้อันไหลเป็นทางอีกครั้งเมื่อได้ยินรับสั่ง การรับบุตรบุญธรรมของตนไปกระทบกับสิ่งใดหรือไม่กันนะ เหตุใดเป็นที่สนใจของฝ่าบาท เดินคิดไปคิดมาแต่เมื่อคิดถึงบุตรสาว(คนใหม่) ก็ลืมเลือนเรื่องนี้ไปใจคิดเพียงว่าตนต้องทำอะไรบ้างเพื่อจะได้เป็นพ่อที่ดี ให้นางยอมรับตนเป็นบิดาด้วยใจจริง

ยามออกจากวัง เฉินอวี้อันย่างเท้าออกไปอย่างมีความสุข เขาเป็นลูกกำพร้าที่ไม่รู้แม้แต่พ่อแม่ว่าเป็นใคร มีชีวิตรอดมาได้เพราะความเมตตาของเจ้าอาวาสจนเข้าสู่วัยรุ่นก็สมัครเข้ามาเป็นทหาร จากนั้นก็ใช้ชีวิตอยู่ในค่ายทหารตลอดเวลาที่ผ่านมาจะมีอุปสรรคและอันตรายมากมายเขาก็ต่อสู้ฝ่าฟันจนมีหน้าที่มั่นคงมีตำแหน่งที่สูงตามความตั้งใจเป็นที่ยอมรับของชาวบ้านทั่วไป ตั้งแต่เด็กเวลาล้วนหมดไปกับการสร้างโอกาสจึงมิได้มีครอบครัวเช่นชายหนุ่มคนอื่นๆ 

ทหารยามหน้าประตูเห็นท่านแม่ทัพขี่ม้ากลับมาถึงหน้าประตูรีบเดินเข้าไปทำความเคารพ 

“ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว คุณหนูเดินมารอท่านแม่ทัพด้านในประตูใหญ่สักครู่แล้วขอรับ”

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.