6-1 สำรวจลู่ทางสร้างอาชีพ

จันทร์กระจ่างฟ้าหมอเทวดาหรือนางพญาพิษ 1619 words 2022-12-13 06:57:12

ในที่สุดเขาก็มีบ้านมีครอบครัวแม้จะมีแค่ลูกสาว(บุญธรรม) ที่ต้องกลับไปเพื่อพบหน้าคนที่รอกลับจวนเช่นเดียวกับขุนนางคนอื่นๆ ถึงแม้ไม่มีสตรีเคียงหมอนหากแต่มีบุตรีที่มากความสามารถรูปร่างหน้าตางดงามรออยู่ในใจรู้สึกภาคภูมิใจไม่คิดว่าชีวิตนี้จะได้โอกาสอันดีเช่นนี้เข้ามา หน้าตาตนเองไม่หล่อเหลา บุคลิกหยาบกระด้างไม่เหมือนพวกบัณฑิต อายุก็มาก ฐานะไม่มั่งคั่งลำพังอนุหรือสาวใช้อุ่นเตียงคงพอหาได้แต่ตนเองก็ไม่รู้สึกว่าต้องหาเรื่องวุ่นวายในเรือนหลังมาไว้ให้ปวดหัว ยามสนุกสนานก็ไปเยี่ยมเยียนสาวงามตามหอนางโลมเป็นครั้งเป็นคราวในยามว่างให้สบายตัวสบายใจก็เพียงพอ ไม่นานเขาก็กลับมาถึงหน้าจวน ป้ายไม้"จวนแม่ทัพเฉิน" มองดูธรรมดายิ่งนัก สิงโตหินด้านข้างประตูหลักก็ขนาดมิได้ใหญ่โต บานประตูก็มีสีแดงจางๆ ไม่สดใสเขาเองก็พึ่งจะมองดูจวนของตนเองอย่างพิจารณาเป็นครั้งแรก คนมีครอบครัวนี่ช่างทำให้ความรู้แตกต่างเสียจริง

เฉินอวี้อันเดินเข้ามาในจวนก็พอดีกับที่เฉินหมิงเยว่เดินออกมาพอดี นางกำลังเดินสำรวจสภาพต่างๆ ในจวนเพื่อจดจำรายละเอียด

“ท่านพ่อกลับมาแล้วหรือเจ้าคะ ข้ารอท่านกลับมาทานอาหารด้วยกัน”

“หากเจ้าหิว ไม่ต้องรอพ่อก็ได้”

“ข้าทานของว่างไปเล็กน้อยแล้วเจ้าค่ะ”

“เจ้าไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ตัวเองอึดอัดนะ ไม่ต้องสนใจคนอื่นข้าอยากให้เจ้ามีความสุขเข้าใจไหม”

“ข้าทราบแล้ว เพียงแต่บางเรื่องก็จำเป็นต้องปรับปรุงตัวเพื่อให้ไม่แปลกแยกจากผู้อื่น ข้าว่าข้าสามารถกระทำได้เจ้าค่ะ แต่ก็มีบางเรื่องที่ข้าไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้จริงๆ ข้าคาดหวังว่าท่านจะยอมรับข้าได้ เอ่อ นะเจ้าคะ” 

เฉินหมิงเยว่ก้มหน้าลงเล็กน้อยนางไม่ค่อยมั่นใจนักทำให้ท้ายประโยคเสียงดูจะเบาลง ด้วยความที่ไม่เคยชินกับการพูดประโยคยาวขนาดนี้

“ไม่เป็นไร นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตสักหน่อย”

“ว่าแต่ท่านได้รางวัลเป็นทองกับเงินหรือเจ้าคะ”

“มีผ้าด้วยเหรอเจ้าคะ ข้าจะตัดชุดใหม่ให้ท่านดีไหมเจ้าคะ”

มีเพียงเสียงดังถามกับเสียงตอบกลับเบาๆ ทั้งสองคุยกันเป็นการปรับตัวเข้าหากันที่ดียิ่ง ในสายตาของบ่าวรับใช้จำนวนน้อยนิดในจวนตลอดทางเดินจากประตูหน้าจวนเข้าไปยังห้องโถง บนโต๊ะมีอาหารจัดวางไว้ยังมีควันลอยขึ้นจางๆ โดยมีพ่อบ้านฉินยืนดูแล ปกตินานๆครั้งที่เฉินอวี้อันจะกลับมาทานอาหารที่จวน จึงไม่มีสาวใช้ที่ดูแลการตั้งโต๊ะอาหารเป็นประจำ ทั้งสองนั่งลงค่อยๆ ทานอาหารมีความอบอุ่นปรองดองมีความสนิทสนมขึ้นบ้างเล็กน้อย


สิบวันผ่านไปหลังจากรับบัญชีของจวนแม่ทัพมาอยู่ในมือ หลังจากศึกษาบัญชีของจวนอย่างละเอียดเฉินหมิงเยว่ก็พบว่า จวนแม่ทัพเฉินช่างเป็นจวนที่ยากจนเสียเหลือเกิน จวนแห่งนี้มีเรื่องที่ต้องใช้จ่ายมากมายแต่เงินที่ได้รับมีเพียงเงินเดือนของบิดาผู้เป็นแม่ทัพ ไม่มีกิจการของครอบครัวตกทอดมาย่อมไม่มีทรัพย์สินให้เพิ่มพูนลำพังแค่แบ่งสรรให้ใช้จ่ายได้อย่างเพียงพอ นางอดที่จะรู้สึกนับถือท่านพ่อบ้านว่าช่างเป็นคนที่มีฝีมืออย่างยิ่ง อยู่กันมาได้อย่างไรเงินแทบจะไม่มี จึงไม่น่าแปลกที่ทั้งจวนแทบจะไร้เงาคนเพราะบ่าวไพร่นับด้วยมือสองข้างยังเพียงพอ เฮ้อ ลำบากจริงๆ

หลังจากใช้เวลาแต่ละวันหมดไปกับตั้งหน้าตั้งตาหาเส้นทางสร้างรายได้ ในที่สุดก็ได้ตัดสินใจว่าถึงเวลาเริ่มต้นสร้างกิจการหาเงินในเมืองหลวงได้แล้ว แต่เมื่อเริ่มต้นเล่าความคิดของตนเองให้พ่อบุญธรรมก็เริ่มเห็นแววยุ่งยากจากความคิดของอีกฝ่ายที่ออกอาการเห่อ หวง ห่วงนางไปซะทุกอย่าง

เฉินหมิงเยว่ใช้เหตุผลมากมายเพื่อให้ได้รับการเห็นชอบและไม่กีดขวางนางก็พอไม่จำเป็นต้องสนับสนุนนางก็ได้ หลายวันนี้มานี้ยามที่มองสมุดบัญชีนางอยากร้องไห้เหลือเกินทั้งๆ ที่ท่านพ่อมีเงินทองเก็บอยู่ในคลังเพียงน้อยนิด นางได้ดูจำนวนเหล่านั้น ยิ่งมองเห็นแววตาของอีกฝ่ายที่แสดงออกว่าเอ็นดูรักใคร่ตามใจนาง นางรู้สึกอบอุ่นและรู้สึกสนิทสนิมด้วยมากกว่าเดิมแต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การค้าต้องเริ่มขึ้นให้ได้ นางต้องการเงินจำนวนมาก ใช่ ยิ่งมากยิ่งดี จวนนี้ยากจนเกินไปแล้วนางรับไม่ได้ ความรู้ที่มีสะสมในตัวนางต้องถูกนำออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์ให้มากที่สุด นางไม่ยอมที่จะเป็นเด็กสาวที่ยากจนในเมืองหลวงอย่างแน่นอน

              “ท่านพ่อ ข้าจะค้าขาย”

“ไม่ได้ เป็นคุณหนูจะค้าขายได้อย่างไร ชาวบ้านเขาจะหัวเราะเอาได้”

“คนอื่นจะพูดอย่างไรข้าไม่สน แต่ข้าจะต้องมีกิจการเป็นของตนเองให้ได้”

             “เยว่เอ๋อร์ เจ้าเป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของพ่อ เจ้าอายุยังน้อยยังมิได้เข้าพิธีปักปิ่น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เจ้าต้องเรียนรู้มีสิ่งใดที่เจ้าสนใจอยากทำ อยากเรียนหรืออยากได้ขอเพียงเจ้าต้องการพ่อจะพยายามสรรหามาให้เจ้า ดีหรือไม่” 

   “ท่านพ่อ หากข้าบอกว่าเรื่องร่ำเรียนไม่จำเป็นสำหรับข้า ท่านเชื่อหรือไม่ข้าสามารถอ่าน เขียนได้ วาดรูปข้าก็วาดได้ เย็บปักถักร้อยข้าก็ได้ร่ำเรียนจากท่านแม่บุญธรรมมาอย่างหนัก ท่านทราบหรือไม่ว่าข้าเล่นพิณได้ไพเราะยิ่งนักหากวันใดท่านมีเวลาว่างข้าสามารถเล่นให้ท่านฟังได้

ท่านแม่เคยกล่าวว่าแม้พวกเราจะอยู่ในหุบเขาห่างไกลผู้คนแต่มิอาจละเลยศาสตร์เหล่านี้ได้ นางทำสิ่งใดได้ข้าก็ทำสิ่งนั้นได้เช่นกัน ส่วนท่านพ่อบุญธรรมของข้าคือหมอเทวดาเขาเชี่ยวชาญด้านโอสถและการรักษาโรค ทั้งยังเขียนอักษรได้งดงามยิ่งนัก ยามว่างมีงานอดิเรกทำอาหารคาวหวานให้ข้าและท่านแม่ทาน ตลอดเวลาที่ผ่านมาข้าล้วนได้รับการเคี่ยวเข็ญมาด้วยความยากลำบาก ข้าใช้กระบี่และพิษได้ดีมากพอๆ กับทานข้าวเลยเชียวนะเจ้าคะ ท่านเชื่อหรือไม่”

             เฉินอวี้อันแม้จะแปลกใจแต่ก็พยักหน้ายอมรับสิ่งที่เด็กสาวผู้ขึ้นชื่อว่าเป็นบุตรสาวบุญธรรมของตนบอกเล่าเรื่องในยามเด็กให้ฟัง เขาพยายามที่จะยิ้มอย่างเข้าใจและเห็นด้วยกับความพยายามของนางแม้จะรู้สึกยากจะยอมรับก็ตาม

“พ่อเชื่อๆ เจ้าเก่งกาจทุกเรื่อง”

             "ท่านพ่อ จากนี้ไปข้าคือคุณหนูจวนแม่ทัพเฉิน ถูกต้องไหมเจ้าคะ"

            “ใช่ๆ พ่อนำนามของเจ้าเข้าร่วมในแซ่เฉินของตระกูลเรียบร้อยแล้วพ่อลืมบอกเจ้าไป ต่อจากนี้ไปเจ้าคือเฉิน หมิงเยว่ คุณหนูเฉินจวนแม่ทัพเฉิน อย่างเป็นทางการ ข้าควรจะขอโทษเจ้าที่ไม่ได้จัดพิธีการแล้วจัดงานเลี้ยงรับเจ้า” 

            “เจ้าค่ะ ข้าคิดว่านั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แต่ว่าข้าคิดอยากจะออกไปเที่ยวชมในเมืองได้หรือไม่เจ้าคะ” 

“เจ้ารอพ่อว่าง ออกไปเดินเที่ยวเป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่ ด้านนอกมีคนไม่ดีมากมาย”

น้ำเสียงติดจะห้วนไม่พึงใจของเฉินอวี้อันบอกอาการคนหวงลูกสาวออกมาแล้ว พ่อบ้านฉินที่ยืนด้านข้างแอบยิ้มน้อยๆ กับท่าทางของคุณหนูคนใหม่ที่พยายามอย่างหนักด้วยท่าทางติดๆขัดๆ และเฉินอวี้อันที่เป็นพ่อมือใหม่เช่นกัน คนเป็นพ่อที่กลัวว่าชายหนุ่มภายนอกเห็นลูกสาวแสนสวยและสนใจนางที่งดงามจนผู้คนตกตะลึง คุณหนูคนใหม่ไม่ชื่นชอบการพอกหน้าหนาๆ เช่นแม่นางในเมืองหลวงแต่นั่นก็ยิ่งทำให้ความงดงามตามธรรมชาติชัดเจนมากขึ้น แน่นอนหากออกไปเดินตามถนนนอกจวนเขากล้าที่จะเอาหนังหน้าแก่ๆ นี้ค้ำประกันได้เลยทีเดียวว่าคงมีคนมองตามไม่น้อยทีเดียว เฉินหมิงเยว่ยังส่งสายตาอ้อนวอนไปหาท่านพ่อของนาง

 “ท่านพ่อออออ ข้าให้พ่อบ้านฉินไปกับข้าเอาบ่าวชาย องค์รักษ์ของจวนไปด้วยก็ได้นะเจ้าคะ นะ นะ ท่านพ่อ” 

นางใช้การอ้อนที่ฝึกท่าทางมาทั้งคืน โดยมีสาวใช้ข้างกายเป็นผู้ฝึกสอนให้นาง เพื่อให้พวกนางนาย/บ่าว ได้ออกไปเดินเที่ยวนอกจวน

 “ได้ๆ เจ้าเอาคนไปด้วยเยอะหน่อย พ่อเป็นห่วงหากวันนี้มิได้มีงานสำคัญข้าจะหยุดงานไปกับเจ้าด้วย” 

พ่อบ้านฉินจัดเตรียมรถม้า บ่าวรับใช้ สาวใช้ องค์รักษ์ไว้สำหรับดูแลนาง เพียงแค่เห็นก็อึดอัดเหมือนโดนกักขังนางรู้แต่แรกว่าการออกไปนอกจวนของคุณหนูเช่นนางจะค่อนข้างยุ่งยากวุ่นวายเพราะการกำชับของท่านแม่ทัพเฉินผู้เป็นบิดาซึ่งมิได้เป็นสิ่งที่นางต้องการนักแต่ก็ยังดีกว่ามิได้ออกไปจากจวน เมื่อก่อนยามที่เฉินหมิงเยว่อาศัยอยู่ที่กระท่อมไม้บนหุบเขามีผืนป่ากว้างใหญ่นางก็สามารถท่องเที่ยวเพียงลำพังกับม้าคู่ใจได้โดยไม่มีผู้ใดขัดขวาง 

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.