ตอนที่2.ท่านรองประธาน

Crazy In Love คลั่งรักยัยดีเจ 1613 words 2023-08-28 05:58:07

ท่านรองประธาน

"เก็บของแล้วตามผมมา" เขาหันมาสั่ง แล้วเดินกลับห้องโดยไม่หันมามองฉัน จนพี่อรขยับเข้ามาถามอย่างใคร่รู้

"น้ำขิงจะไปไหนเหรอ?"

"ไปทำงานกับท่านรองฯค่ะ"

ฉันทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ บุ้ยใบ้ไปตามทางเดินนั้นที่ห้องอีกห้องที่เดินผ่านมาเมื่อเช้า

"ว้า! แย่จังต่อไปพี่คงเหงาเเย่เลย"

"คราวนี้ไม่มีคนช่วยงานพี่แล้ว" พี่อรทำสีหน้าเสียดาย ส่วนฉันเก็บของไปก็คุยไปอันที่จริงสมบัติฉันก็ไม่มีอะไรมาก แค่โน้ตบุ๊กหนึ่งตัวกับกระเป๋าสะพายใบเล็ก และอุปกรณ์สำนักงานอีกนิดหน่อยปากกาสองสามด้าม

"ตื๊ด...ตื๊ด...ตื๊ด" โทรศัพท์สายในดังขึ้น

พี่อรสบตากับฉันแล้วรับโทรศัพท์

"สวัสดีค่ะ"

"ค่ะ ค่ะ ได้ค่ะ" พี่อรวางสายแล้วหันหน้ามาทางฉัน

"เร็วเข้าน้ำขิง คุณธามเรียกแล้ว"

ฉัน...

ทีนี้สิ่งของทั้งหมดรวบมาไว้ในอ้อมแขนแล้วรีบเดินจ้ำอ้าวทันที ห้องท่านรองฯ อยู่ก่อนห้องท่านประธานหนึ่งห้องนับจากลิฟต์ทางเข้า

ฉันเดินย้อนขึ้นสิบก้าวก็ถึง แต่หน้าห้องกลับไม่มีโต๊ะตั้งไว้หน้าห้องสักตัว ซึ่งแปลว่าฉันต้องเข้าไปด้านในจึงเคาะประตูห้องแล้วผลักเข้าไป

"ขออนุญาตค่ะ" เสียงของฉันมักไปก่อนตัวเสมอ

"เชิญครับนี่โต๊ะของคุณ" เมื่อก้าวเข้าห้องทำงานของท่านรองฯ ด้านในมีโต๊ะสำนักงานใหม่เอี่ยมตั้งไว้หนึ่งตัว ซึ่งโต๊ะของฉันอยู่ทางขวามือเมื่อเปิดประตูเข้าด้านใน จัดโต๊ะเสร็จแล้วฉันเหลือบมองท่านรองฯที่สนใจกับเอกสารมากมายที่กองอยู่บนโต๊ะ

เขามองมาทางฉันพอดีทำให้เราสบตากันด้วยความบังเอิญ

"คุณน้ำขิง"

"ค๊ะ..." ฉันลุกจากเก้าอี้แล้วเดินตรงไปหาเขาทันที

เขายื่นแฟ้มที่เขาเปิดดูเมื่อสักครู่ทั้งหมดให้ฉัน

"คุณช่วยเอาไปอ่านแล้วสรุปให้ผมที"

"ผมขี้เกียจอ่าน"

"ได้ค่ะ " คิดว่าฉันโดนรับน้องแล้วล่ะ จึงรับแฟ้มทั้งหมดมาไว้ในอ้อมแขน แล้วหอบมาวางที่โต๊ะทำปากขมุบขมิบ

"จะแกล้งกันหรือไง"

จากนั้นฉันสุ่มหยิบแฟ้มอันที่หนึ่งเปิดอ่านทีละหน้าอย่างตั้งใจ ความรู้สึกเหมือนกับตอนเรียนเป๊ะ อ่านแล้วเลคเชอร์โน๊ตย่อให้พอเข้าใจ

ส่วนท่านรองฯนั้น เขาเอาแต่นั่งไถสมาร์ทโฟนสบายใจเฉิบ

"ชิ... ถือว่าเป็นเจ้านายนั่งสบายเลย" ฉันนั่งพึมพำอยู่คนเดียวหวังว่าเขาคงไม่รู้ว่าฉันนินทาหรอกนะ

ครืด...ครืด...

สมาร์ทโฟนของฉันขยันสั่นครืดคราดอีกแล้ว ฉันรีบปัดหน้าจอทันทีกลัวเขาจะว่า แอบชำเลืองมองเขานิดหนึ่งก็เห็นเขาเหลือบตามองมาเหมือนกัน

"ฮัลโหลเจ๊" ขอกระซิบนิดนึง

"คุยได้ไหม?" เจ๊ยังอุตส่าห์ถาม ฉันรีบป้องปากกระซิบกระซาบกลัวเขาได้ยิน

"ไม่ค่อยสะดวกค่ะคุยในไลน์ดีกว่าค่ะ"

"เคร..." เสียงอีเจ๊รับคำแล้ววางสายไป

โน้ตบุ๊กของฉันเชื่อมต่อไลน์ไว้เพื่อความสะดวกในการสื่อสาร และส่งไลน์ติดต่องานได้สะดวกรวดเร็ว จากนั้นไลน์เจ๊ท๊อฟฟี่ก็เด้งมาทันที

เจ๊ท๊อฟฟี่: พี่มีงานให้ช่วยหน่อยวันเสาร์บ่าย

น้ำขิง: งานอะไรคะ

เจ๊ท๊อฟฟี่: เดินแบบชุดว่ายน้ำ

น้ำขิง: โป๊หรือเปล่าคะ

เจ๊ท๊อฟฟี่: ไม่โป๊หรอกสไตล์สาวสปอร์ตี้

น้ำขิง: มีตัวอย่างชุดมาให้ดูไหมคะ

เจ๊ท๊อฟฟี่: เดี๋ยวพี่ส่งไปให้ดู ของน้ำขิงจะเป็นเซ็ทวันพีชสวยๆ น่ารักๆ

น้ำขิง: ขอดูก่อนนะคะว่าโอเคไหม

เจ๊ท๊อฟฟี่เป็นเอเจนซี่รายใหญ่ของวงการพริตตี้ผู้มีพระคุณกับฉัน

ที่ฉันเรียนจนใกล้จบได้ก็เพราะเจ๊แก จรรยาบรรณของเจ๊เขาค่อนข้างดีเสมอต้นเสมอปลาย จนฉันยกให้เป็นผู้จัดการส่วนตัวสกรีนงานทั้งหมดด้วยความไว้วางใจ

เจ๊ท๊อฟฟี่: ว่าไงยะโอเคไหม

น้ำขิง: โอเคค่ะ

ฉันดูตัวอย่างชุดแล้วไม่โป๊เกินไป คอนเซ็ปต์ของเซ็ทนี้เป็นชุดว่ายน้ำแนวสปอร์ต ดูแล้วเท่ซะมากกว่าเซ็กซี่ การรับงานแต่ละครั้งฉันบอกเจ๊แกเสมอว่า ฉันยังเป็นนักศึกษาอยู่เกรงใจทางมหาวิทยาลัยกลัวเสียชื่อเสียง

ฉันรับงานแบบนี้ในวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ในช่วงกลางวันจนถึงบ่ายไม่เกินเย็นเพราะมีคิวไปเปิดแผ่นที่ผับดังย่านRCAในเวลาสองทุ่มร้านประจำ

ตอนบ่าย

ฉันต้องพรีเซนท์งานจากแฟ้มเมื่อเช้าที่อ่านได้ทั้งหมดสองแฟ้มต่อหน้าท่านรองฯ ฉันค้นพบว่าเขาเป็นคนให้เกียรติฉันพอสมควร ให้พรีเซนท์จนจบโดยไม่ขัดจังหวะกลางคัน

"พรืด..." ฉันพ่นลมหายใจออกมาจนหน้าม้าปลิว แล้วใช้มือจัดทรงให้เจ้าที่แบบลวกๆ

"โอเคผมให้คุณผ่าน"

"ผมมีงานเยอะคุณต้องเป็นผู้ช่วยที่ดี ใช้ไหวพริบที่เรียนมาทั้งหมด

"ทำงานให้ผมแบบมืออาชีพ"

แต่ฉันเป็นแค่นักศึกษาฝึกงานเองนะ (ฉันนิ่วหน้าทันที ฉันรู้เขาดูออก)

"ถึงแม้ว่าคุณจะยังไม่มีประสบการณ์"

"แต่คุณต้องศึกษาเอานะ" จู่ๆใบหน้าแก่ๆของท่านรองฯดูเอาจริงเอาจังขึ้นมา

"ค่ะ..."

"อ้ออีกอย่างนะ ทุกวันอังคารและวันศุกร์"

"เราต้องเข้าโรงงานที่นครปฐมด้วยกันนะ"

"เตรียมตัวให้พร้อมมาแต่เช้าหน่อย"

ฉันเห็นเขาจิกตาใส่ฉัน ตอนที่บอกว่าให้มาแต่เช้า ก็พอจะรู้ว่า้ขาคิเอะไร

วันศุกร์

"รอด้วยค่ะ รอด้วยค่ะ " ฉันกระหืดกระหอบอีกตามเคยวิ่งเข้าลิฟต์อีกแล้ว

"ขอบคุณค่ะ" ฉันขอบคุณพี่ชายคนนึงของแผนกบัญชี เป็นชายหนุ่มหน้าใสแม้แว่นจะหนาไปสักนิดซึ่งเขาก็ยิ้มรับอย่างใจดี

"ฮึ่ม! " เสียงกระแอมจากด้านในเป็นเสียงทุ้มนุ่มหูที่คุ้นเคย จึงหันไปมองเพื่อความแน่ใจเงยหน้ามองเขาจนคอเคล็ด คนอะไรสูงอย่างกับเปรต ฉันนึกในใจ

"สวัสดีค่ะท่านรองฯ" ฉันยิ้มทะเล้นบนใบหน้า เมื่ออยู่ด้วยกันหลายวันก็เริ่มคุ้นเคยกับหน้าดุๆของเขาเมื่อฉันยิ้มลักยิ้มก็ยิ้มด้วย

น่าร้าก...

ท่านรองฯ เห็นฉันมาเช้ากว่าทุกวันคงจะปลื้มใจ เขามองมาทางฉันตาเป็นประกายพยักหน้าหงึกหงัก

ในมือฉันถือกระเป๋าใบเล็กมาด้วยข้างในมีชุดทำงานดีเจและโน๊ตบุ๊ค โดยจงใจถือแอบไว้ข้างตัวกลัวเขาจะทัก เมื่อพนักงานคนอื่นทะยอยออกจากลิฟต์จนหมดเหลือแต่ฉันกับท่านรองฯฉันเลิ่กลั่กไม่ไหว เก็บอาการไม่อยู่ดูมีพิรุธมาก

"นั่นกระเป๋าอะไรของคุณ?" ว่าแล้วซื้อหวยไม่ถูกเลยน้ำขิงเอ๊ย ฉันอยากเอามือตบหน้าผากตัวเองหนึ่งฉาด

ตาดีชะมัดคนอะไร

"อ้อ คือกระ..." พอดีลิฟต์เปิดจังหวะนั้นพอดี ช่วยชีวิตไว้ได้อย่างหวุดหวิด รู้สึกโล่งอกอย่างบอกไม่ถูก

"เห้อ เกือบไปแล้ว"

ที่ชั้น5พี่อรมาแต่เช้าเช่นเคย ฉันเดินเลยไปทักพี่อรก่อนแบบว่าคิดถึงน่ะ

"สวัสดีค่ะพี่อร"

"สวัสดีจ้าน้ำขิง"

ฉันโบกไม้โบกมือทักทายสดใส แต่ต้องชะงักเมื่อมีสายตาคมหันมามองก่อนที่เขาจะเข้าห้องไป

"จะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ"

"ผมรีบนะอย่ามัวเล่นอยู่" เสียงดุเสียงหนักแน่นอันเป็นซิกเนเจอร์ของท่านรองฯลอยลมมา

"ค่ะ " วันนี้เขาดุฉันแต่เช้าเลย แต่ฉันก็ไม่คิดจะเข็ด คิดเหรอว่าจะกลัว

ฉันนั่งรอเขาเซ็นตเอกสารบนโต๊ะเสร็จแล้ว จากนั้นฉันจึงโทรตามแผนกต่างๆมารับคืนไป จากนั้นสองขาของฉันก็เดินตามขายาวๆของเขาไปที่ลานจอดรถทันที กระโปรงนักศึกษาก็แคบเดินไม่ค่อยสะดวกรู้อย่างนี้ใส่กระโปรงพลีทมาดีกว่า แต่ดีที่ใส่รองเท้าผ้าใบมาฉันจึงใช้การวิ่งแทน ง่ายดี

ลานจอดรถผู้บริหารที่มีปอร์เช่สีขาวจอดอยู่ท่านรองฯผลุบหายเข้าไปในรถด้านคนขับ ฉันได้แต่ยืนเซ่อขยี้ตารัวๆ

นี่มันปอร์เช่ โอ๊ยวาสนาของยัยน้ำขิงจริงจริ๊ง (ฉันคิดในใจ) มองไปที่รถตาไม่กระพริบ ยืนอยู่อย่างนั้นไม่กล้าเปิดประตูเข้าไป

จนกระทั่งท่านรองฯลดกระจกลงทำสายตาดุใส่ฉัน

"ขึ้นรถสิคุณ เดี๋ยวสาย"

"ค่ะท่านรองฯ" ฉันจึงเปิดประตูแล้วหย่อนก้นลงไปก่อนจากนั้นยกเท้าทั้งคู่เข้าไป แล้วนั่งอย่างกับนางพญา (ฉันเคยเห็นใน TikTok) เมื่อคนดังขึ้นรถหรู

และแล้วฉันก็ปล่อยไก่จนได้ เมื่อคาดเบลล์ไม่ได้สักที เขาเห็นแล้วรู้สึกรำคาญใจ

"มาผมช่วย" เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ดึงสายเบลล์อย่างรวดเร็ว

ตอนที่เขาโน้มตัวลงมาใกล้ ลมหายใจอันร้อนผ่าวของเขารดที่ต้นคอขาวของฉันจนตัวแข็งทื่อ ส่วนเขาสบายๆสีหน้าเรียบเฉย อบอุ่นก็เป็นด้วย เทคแคร์ก็เนียนตา

เขาทำอย่างกับพระเอกในซีรีส์เกาหลีที่ดูอยู่ทุกวัน

ละมุน มันฮีลใจบอกไม่ถูก ขอให้ลบภาพเก่าๆที่เขาดุใส่ฉันไปได้เลย

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.