9-1 ดอกเดียวเจ็ดราตรี

ท่านอ๋องข้าอยากเป็นเซียนหาใช่ภรรยา 1614 words 2023-03-27 10:41:09

ตำหนักตะวันออก ตำหนักของรัชทายาทตกแต่งอย่างโอ่อ่าสมกับที่พักของว่าที่ฮองเต้ในอนาคต ปีกซ้ายเป็นที่พักของชายาและบรรดาสาวงามของรัชทายาท ตกแต่งด้วยไม้ดอกงดงามส่งกลิ่นหอมระริน รอบนอกตามทางเดินทหารองครักษ์ยืนเฝ้าเวรยามตามจุดด้วยความเข้มงวด นางกำนัลเดินผ่านไปมาอย่างชดช้อย

ภายในห้องรับรองหรูหราส่วนกลางของตำหนักประดับตกแต่งล้วนสูงค่าผ้าม่านปักดิ้นทองพริ้วไหว งดงามสมตำแหน่งตำหนักว่าที่พระเจ้าแผ่นดินในอนาคต บนเก้าอี้ประธานยามนี้มีฮองเฮาเสด็จประทับอยูสายพระเนตรจับจ้องมองดูรัชทายาทที่เดินวนไปวนมาอย่างอดกลั้น ปลอกนิ้วทองคำถูกลูบไปมาเพื่อระงับความรู้สึกภายในพระทัย

“ชินอ๋องออกเดินทางไปพร้อมกองทัพสิบวันแล้ว พวกสวะที่ท่านลุงส่งไปลงมือกันเรียบร้อยหรือยัง ปล่อยให้ข้ารอมาหลายวันแล้วนะพะยะค่ะ”

“รัชทายาทจะทรงกระวนกระวายใจไปใย ถึงจะลงมือสำเร็จพระองค์ก็ไม่อาจแสดงความยินดีให้ปรากฎออกมาได้นะพะยะค่ะ คนที่กระหม่อมส่งไปครั้งนี้เป็นกลุ่มนักฆ่าที่มีชื่อเสียงลงมือไม่เคยพลาดขอเพียงมีเงินจ่ายค่าตอบแทนและไม่เคยทำให้ข้อมูลผู้ว่าจ้างเล็ดลอดออกมา คาดว่าอีกสักวันสองวันข่าวน่าจะส่งมาถึง” 

สิ้นเสียงก็มีชายวัยกลางคนร่างกายกำยำไม่ได้อ้วนลุงพุงเช่นขุนนางที่มีอายุไล่เลี่ยกันแม้แต่น้อย ใบหน้าคล้ายฮองเฮาห้าส่วนยังดูอ่อนกว่าวัยแววตาเป็นคนฉลาดล้ำสวมใส่ชุดขุนนางในชุดแดงเลือดนกเดินเข้ามา เป็นเสนาบดีฝ่ายขวาพี่ชายเพียงคนเดียวของฮองเฮา หลิวโฮวหมิง

“ถวายพระพรฮองเฮา ถวายพระพรรัชทายาท”

“ตามสบายท่านเสนาบดี”

“ท่านลุง ท่านจะไม่ให้ข้าร้อนใจได้อย่างไรพวกเราวางแผนลงมือมาหลายครั้งแล้วก็พลาดมาตลอด ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่หาได้ยากยิ่ง ข้าไม่อยากให้ผิดพลาดซ้ำซาก”

“วางใจได้พะยะค่ะ”

“รัชทายาทท่านฟังลุง พระองค์ต้องหัดเรียนรู้ให้มากในอนาคตการวางท่าทางของตนให้สงบจะทำให้สถานการณ์ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเจ้า ในทางกลับกันหากแสดงออกชัดเจนเกินไปศัตรูสามารถคาดเดาความคิดพระองค์ได้จะส่งผลกระทบต่องานใหญ่ได้”

“ท่านพี่ งานที่ข้าให้ท่านดำเนินการ เรียบร้อยดีหรือไม่”

“เรียบร้อยพะยะค่ะ อีกไม่นานจะพร้อมและส่งถึงมือพระองค์ทันที”

“ดี งั้นพวกท่านคุยกันเถอะ ข้าจะกลับตำหนัก”

“น้อมส่งเสด็จฮองเฮา/ น้อมส่งเสด็จแม่”

———

ม่านสีทึบทิ้งตัวปิดกั้นแสงจันทร์ภายนอกไว้ไม่มีลอดเข้าได้ บนโต๊ะกลางห้องมีเชิงเทียนส่องแสงเพียงลำพัง ชุดกาน้ำชาหยกบ่งบอกฐานะคนเบื้องหน้าในชุดสีดำศรีษะปิดคลุมด้วยหมวกกันลมปิกปิดตัวตนมองไม่ออกว่าคือใคร มองเห็นเพียงนิ้วเรียวยาวผิวขาวราวหยกที่จับจอกชาดื่มด้วยท่าทางสูงส่ง คนผู้นี้ไม่แยแสใครทั้งสิ้นภายในห้องยังมีชายวัยกลางคนยืนน้อมกายห่างจากโต๊ะไปสองก้าวเบื้องหลังชายชุดดำมีชายฉกรรจ์แววตาดุดันยืนอารักขาทั้งซ้ายและขวา

“นายท่าน คนที่ข้าส่งไปไม่สามารถทำการได้สำเร็จ” 

สิ้นเสียงรายงานองครักษ์ด้านหลังขยับตัวชักดาบก้าวเข้าหาทันทีโดยไม่ต้องรอคำสั่ง ชายวัยกลางคนรีบลนลานส่งเสียงขอทางรอดทันทีด้วยความร้อนใจ

“นายท่าน ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะขอรับให้โอกาสข้าอีกครั้ง รับรองไม่มีผิดพลาดแน่นอน ข้ายังมีไพ่ตายอีกใบต้องสำเร็จแน่นอน”

“อย่าทำให้ข้าผิดหวังอีกครั้ง ครั้งนี้หากไม่สำเร็จเจ้าก็ให้คนนำศรีษะตนเองกลับมาให้ข้า” 

เสียงที่แหบห้าวไม่บ่งบอกอายุดังขึ้นไม่ดังไม่เบา มือขาววางถ้วยชาลง สะบัดมือเป็นสัญญาณให้อีกฝ่ายถอยออกไป 

“สืออี เจ้าไป จัดการให้เรียบร้อย” สิ้นเสียงชายชุดดำหนึ่งในสองคนด้านหลังก็หายตัวไป 

 

ชินอ๋องนำทัพออกจากเมืองหลวงได้สิบวัน ถือเป็นประวัติการณ์เลยทีเดียวที่แม่ทัพถูกลอบฆ่าระหว่างเดินทัพติดต่อกันสามครั้งสามคราระหว่างเดินทางไปชายแดน หากป้องกันไว้ไม่ได้เกรงว่ายังไม่ทันได้รบกับข้าศึกก็คงสูญเสียยิ่งใหญ่อย่างแน่นอน ทหารและขุนพลต่างก็ต้องสู้รบฟาดฟันผู้ร้ายที่ดาหน้ากันเข้ามา ตลอดเวลาทุกคนในกองทัพต้องคอยระมัดระวังตัวทั้งยังต้องรีบเร่งเดินทางไปช่วยชายแดน ขุนพล แม่ทัพนายกองและทหารต่างอยู่ในภาวะเคร่งเครียด

“คนของเราสูญเสียเท่าใด”

“สิบห้านายขอรับ ท่านขุนพลคนของเราไม่ทันระวังจึงเสียทีพวกมัน”

“ใครกันช่างชั่วร้ายนัก กองทัพออกเดินทางมายังได้ไม่เท่าไหร่ก็มีกองกำลังของพวกนอกด่านราวห้าสิบคนเข้ามาลอบสังหารชินอ๋อง”

“นั่นสิ วางแผนได้ตื้นเขินยิ่งนัก ระยะทางควรใกล้ชายเดินจึงจะเป็นพวกนอกด่าน จู่ๆ พื้นที่รอบเมืองหลวงมีพวกคนเถื่อนเหล่านี้โผล่ออกมา นี่มันปลอมชัดๆ”

“จะเป็นใครวางแผนก็ช่างเถอะ พวกเจ้ากำชับพลทหารให้ระวังต่อกันหน่อยจะดีกว่าคิดว่าคงไม่ลอบโจมตีเพียงครั้งเดียวแน่”

“ขอรับ”

เส้นทางระหว่างมุ่งไปชายแดน ครั้งแรกที่ถูกลอบทำร้ายสูญเสียทหารไปหลายนาย ครั้งที่สองกำลังเดินกองทัพเข้าสู่เส้นทางป่าไผ่ก็มีนักฆ่าหลายสิบคนแอบซุ่มเข้ามาลอบสังหารถูกแม่ทัพนายกองที่เตรียมตัวตามคำแนะนำของท่านที่ปรึกษาโจมตีกลับตามจับได้บางส่วนแต่ก็ยอมตายไม่ยอมบอกข้อมูลผู้สั่งการผู้ว่าจ้างทำให้รองแม่ทัพโมโหเป็นอย่างมาก

“บ้าเอ๊ย ฆ่าตัวตายหมดเลยพวกที่จับได้”

“ใช่ขอรับ พวกมันซ่อนยาพิษไว้ในปาก”

“เป็นพวกมืออาชีพ รักษาความลับของผู้ว่าจ้างไม่มีรั่วไหลยอมตายไม่ยอมสารภาพ เสียดายจริงๆ”

“ช่างเถอะ ข้ายังอยู่ดีพวกมันต้องกลับมาอีกแน่”

“พะยะค่ะ”

เดินทางติดต่อกันยี่สิบกว่าวันจนบ่ายคล้อยแสงตะวันเริ่มอ่อนแสงลง ทหารแต่ละคนมีความอ่อนล้าจากแสงแดดที่ร้อนแรงอย่างเห็นได้ชัดเจน คำสั่งถูกถ่ายทอดออกไปให้หยุดพักปักกระโจม เตรียมอาหารที่ลานกว้างห่างจากแหล่งน้ำในลำธารเพียงร้อยก้าว จัดแบ่งกองกำลังออกป้องกันการลอบเข้ามาโจมตีจากผู้ประสงค์ร้าย ด้วยทั้งสองครั้งมุ่งหวังสังหารชินอ๋องทำให้จัดวางกระโจมหลักไว้กึ่งกลางป้องกันและหวังผลการจับผู้ลอบเข้ามา ภายในมีกระโจมเป็นที่ประทับของชินอ๋องและกันพื้นที่ไว้เป็นที่ประชุม มีโต๊ะที่ทำขึ้นง่ายๆวางแผนที่บอกเส้นทางมีการทำเครื่องหมายกำกับชัดเจนบ่งบอกความสามารถในการรวบรวมข้อมูลข่าวสารของกองสอดแนมที่ล่วงหน้าไปก่อนเป็นอย่างดี 

ทุกคนในกระโจมสีหน้าเข้มครึมแววตาเคร่งเครียดในใจหนักอึ้งด้วยรู้กันดีว่าชินอ๋องได้รับการขนานนามว่าเทพแห่งสงคราม เข้าสู่สนามรบด้วยอายุเพียงสิบห้าปีพร้อมพระราชบิดา คือฮองเต้รัชกาลก่อนด้วยความสามารถทางการรบทำให้เป็นที่หวาดกลัวเพียงปรากฎกายขึ้นศัตรูก็ได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจทันที บัญชาการทหารมาเป็นเวลายาวนานหลายปีได้รับความเคารพและศรัทธาจากทหารและชาวบ้านมีชื่อเสียงกึกก้องจนทำให้หลายๆคนหวาดระแวง ครั้งนี้หากมีความผิดพลาดเกิดอันตรายกับชินอ๋องก่อนที่จะเดินทางถึงสนามรบย่อมมีผลต่อการรบที่ชายแดน ดังนั้นทุกคนได้แต่หวังว่าจะสามารถเดินทางไปชายแดนได้อย่างราบรื่นว่องไว ต่างคนต่างเงียบไม่มีใครส่งเสียง

“ทุกท่านดู บนเส้นทางจากนี้ไปจนถึงชายแดนเหนือ หากจะมีการลอบสังหารเกิดขึ้นคนร้ายจะต้องหาโอกาสลงมือที่บริเวณนี้” 

ที่ปรึกษาอู๋จือหยาวางธงแดงปักลงบริเวณที่เป็นเส้นทางผ่านหุบเขาแห่งหนึ่ง ความกังวลบนใบหน้าบ่งบอกถึงความสำคัญของพื้นที่นั้นเป็นอย่างดี เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุดจึงเสนอวิธีการให้ทุกคนในกระโจมฟัง

“จากที่ข้าคำนวนจากความเร็วในการเดินทัพ อีกหนึ่งวันเราจะเดินทัพถึงบริเวณปากทางเข้า บริเวณนี้จำเป็นต้องเดินทางผ่านอย่างน้อยครึ่งชั่วยามจึงจะเคลื่อนพลทหารทั้งหมดผ่านพ้นไปได้ มีหน้าผาทั้งสองฝั่งเสี่ยงมากเกินไป หากยอมเสียเวลาเพิ่มสามารถใช้อีกเส้นทางเลี่ยงออกไปไม่ต้องผ่านหุบเขา” 

“หากทำเช่นนั้นเราจะไปถึงชายแดนล่าช้ากว่ากำหนดการ อาจทำให้เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงให้เลวร้ายกว่าเดิมได้” 

เสียงรองแม่ทัพเอ่ยเบาๆ ด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลแต่ทุกคนในที่นั้นได้ยินอย่างชัดเจน บอกในสิ่งที่ทุกคนในกระโจมต่างก็รู้ดี

“ข้าเสนอให้ชะลอการผ่านทัพรอด้านนอกหุบเขาแล้วส่งหน่วยสอดแนมเข้าไปในหุบเข้าสำรวจก่อน ค่อยตัดสินใจอีกครั้ง” 

ขุนพลอวี๋ซือหยูเสนอวิธีของตนพร้อมเหลือบมองชินอ๋องที่ยืนเด่นหัวโต๊ะซึ่งยังไม่เอ่ยอะไรออกมาได้แต่ฟังและมองที่แผนที่ แล้วก้มต่ำซ่อนแววตาและใบหน้าคล้ายน้อมน้อมต่อผู้มียศสูงกว่าท่านอื่นๆ ยังคงมีคนเสนอวิธีการออกมาอีกเล็กน้อยในที่สุดชินอ๋องก็ขยับตัวและเอ่ยออกมา

Previous Next
You can use your left and right arrow keys to move to last or next episode.
Leave a comment Comment

Waiting for the first comment……

Please to leave a comment.

Leave a comment
0/300
  • Add
  • Table of contents
  • Display options
  • Previous
  • Next

Navigate with selected cookies

Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.

If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.