"I'll own you," Axel Ledger said with his blue piercing eyes concentrated on her. "You'll sign this contract and be my slave. There'll be no end to this until I'm tired of it." "I accept it," Ezra Houston said with a bold look on her face. She had no other choice. "The closer I'll be to you, the easier my revenge will be." ~ After being betrayed by everyone she knew and thrown out to the streets, broke and helpless, Ezra Houston runs into the man she had never expected to see again. Axel Ledger wanted to help her by giving her everything she had lost. But behind his words lied a deep motive and a buried grudge. He offers her a deal in return for his help that is meant to change their lives forever.
ชุดโคแสุดแซ่บ 1 ลุงขุนศึก 2 ป๋าสายเปย์ 3 วันไนท์กลางไร่กับพ่อเลี้ยง 4 คุณอาแสนดุ 1.ลุงขุนศึก ลุงขุนศึก...ลุงข้างบ้านหุ่นแซ่บที่น่าทดลองที่สุดในสามโลก ช้องนาง...เด็กสาวช่างยั่วที่อยากได้คนรุ่นลุงมาเป็น ‘สามี’ “หนูเอากระเป๋าเดินทางมาทำไม” เขาทักด้วยความสงสัย กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบ ช่างแตกต่างจากชุดเมื่อช่วงบ่ายโดยสิ้นเชิง “หนูก็โกหกพ่อกับแม่ว่าจะกลับกรุงเทพสิคะ...” ช้องนางจะกลับไปหาป้าจริงๆ แหละ แต่คงเป็นช่วงบ่ายวันพรุ่งนี้ คืนนี้เธอต้องได้ทำธุระที่ค้างคากับลุงในช่วงบ่ายเสียก่อน “แต่หนูจะย้ายมาอยู่กับลุงน่ะเหรอ” ช้องนางล่ะเอ็นดูคำพูดลุงขุนศึก หนีมาอยู่ด้วยกัน แต่ห่างจากบ้านตัวเองแค่ซอยคั่น มันคงเรียกหนีมาอยู่กับลุงได้หรอกนะ “เปล่าค่ะ หนูจะกลับกรุงเทพพรุ่งนี้ค่ะ แต่วันนี้หนูคิดว่าเราควรทำธุระระหว่างกันต่อนะคะ” เธอพุ่งตรงประเด็น ถ้าถูกใจกัน เธอก็ยังมัดใจลุงไว้ให้สำเร็จ อีกตั้งครึ่งปีเชียวนะกว่าจะเรียนจบ ถ้าแบบนั้นลุงอาจจะมีเมียแล้วก็ได้ แต่ถ้าผลออกมาตรงกันข้าม เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับลุง เธอก็จะได้วางแผนชีวิตต่อ ก้าวต่อไปได้โดยไม่ได้ตะขิดตะขวงใจ “จะมาให้ลุงเอาน่ะเหรอ” เขาหยิบเบียร์กระป๋องขึ้นซดพร้อมกับมองหน้าใสๆ ที่แววตาไม่ค่อยซื่อพยักหน้าถี่ๆ “ลุงจะให้หนูนั่งที่เก้าอี้หรือไปนอนรอที่โซฟาดี” ตอนนี้ข้างนอกมืดแล้ว แถมม่านก็ปิดเป็นส่วนใหญ่ มันคงไม่เป็นอะไรหรอก “ขึ้นไปชั้นสองดีกว่า” เขามองคนช่างยั่วที่พอถอดเสื้อคลุมออก ก็เห็นแต่เสื้อรัดรูปที่ฟิตพอดีตัว แล้วพอหันมาเต็มๆ ก็เห็นยอดอกที่ชูชันชัดเจน จงใจโนบรามาขนาดนี้ ถ้าไม่ได้เขาเป็นผัวคืนนี้ เด็กช้องนางนี่ก็คงนอนไม่หลับ หรือถ้าหลับก็คงฝันร้าย “ให้หนูอาบน้ำรอไหม” “ไม่ต้องหรอก ลุงว่าหนูหอมแล้ว” เขากระดกกระป๋องมองคนที่จงใจเดินทิ้งสะโพกขึ้นบ้านไป 2.ป๋าสายเปย์ ภาม...ป๋าสายเปย์ ผู้เต็มไปด้วยเสน่ห์แพรวพราว กัญญดา...สาวน้อยผู้ตกลงไปในบ่วงรักอย่างไม่ทันตั้งตัว “หนูจะยืมคุณ หมายความว่าหนูจะคืนคุณทุกบาททุกสตางค์ พร้อมดอกเบี้ยที่คุณจะเรียกร้อง ถ้าคุณจะปรานีก็อย่าส่งนักเลงมาตามทวงก็พอค่ะ” ขอเหลือศักดิ์ศรีไว้ให้ตัวเองภูมิใจ อย่างน้อยถ้าแลกเปลี่ยนกันด้วยดอกเบี้ยมันก็จะเหลือแค่หนี้บุญคุณ “อืม...” นักธุรกิจใหญ่มองคนที่จ้องมาด้วยสายตามุ่งมั่นชัดเจน เขาชอบเธอนะ ให้ช่วยฟรีๆ เลยก็ยังได้ เงินแค่นั้นไม่สะเทือนขนสักเส้นในกายหรอก “คุณภามตกลงไหมคะ” “เนี่ยนะเหรอ เรื่องที่หนูไลน์มาเรียกผม” อ้าว! เธอถึงกับน้ำท่วมปากอีกครั้ง ไม่รู้ควรเอื้อนเอ่ยออกไปว่าอย่างไรดี “ถ้าคุณต้องการอะไรเพิ่มเติม...” “หนูก็รู้ว่าผมต้องการอะไร” มันเป็นนาทีแห่งการตัดสินใจ แต่จนแล้วจนรอดเธอก็ทำได้แค่ปากสั่น “คุณภามต้องการอะไรเหรอคะ” เธออ่านสายตาเขาออก คนที่ร้านก็เช่นกัน แต่ถ้าเขาไม่พูดตรงๆ เธอก็ไม่กล้าหรอกที่จะคิดว่าเขาต้องการแบบที่ทุกคนคิดจริงๆ ไหม “ผมต้องการหนู...บนเตียง” เขาไม่ใช่หนุ่มน้อยที่จะต้องอ้อมค้อม ที่จีบๆ เธอมาสักพักนั่นก็ไม่เคยทำกับใคร 3.วันไนท์กลางไร่กับพ่อเลี้ยง วริศ...พ่อเลี้ยงฤทธิ์เดชสูง วรรษมน...เด็กงามที่ดื้อรั้น จากวันไนท์กลางไร่ทั้งคืนสู่การเป็นเมียเด็กที่ต้องอยู่ใต้ ‘ฤทธิ์’ รักไปตลอดกาล “แม่กับพ่อบอกว่าพ่อเลี้ยงเรียกหนู” “ใช่” วริศแกล้งทำเป็นช้อนตาขึ้นมองเหมือนไม่ได้ตื่นเต้นอะไร “รีบพูดธุระของคุณมาสิคะ” วรรษมนล่ะหมั่นไส้ ถ้าสนใจงานนักแล้วเรียกเธอมาทำไม “กล้าพูดกับเจ้าของไร่ขนาดนี้เชียว” เขาลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วก็ประสานตากับคนที่เผลอถอยหนีสักครึ่งก้าวเห็นจะได้ “ก็...ค่ะ” คิดว่าเธอไม่กล้าเหรอ ปล้ำกับเขาก็เคยมาแล้ว บ้าจริง แค่เห็นเรือนกายบึกบึน ใบหน้าหล่อเหลา ร่างกายมันก็เหมือนจะสั่นระริกขึ้นมา “เห็นพ่อกับแม่บอกว่าเรื่องงาน” “ช่าย...” เขาลากเสียงแล้วก็ใช้สะโพกพิงไปกับขอบโต๊ะ ให้ตายเถอะ ขนาดเสื้อผ้าธรรมดาๆ สไตล์สาวภูธร แต่เขากลับคิดถึงแต่ยามเธอร่อนกายอยู่เหนือตัวเอง นมนั่นมันถูกพรางตาด้วยเสื้อเชิ้ตตัวหลวมๆ “หน้าหนูอยู่นี่ค่ะ” เธอชี้หน้าตัวเองเมื่อรู้สึกว่าเขาจงใจมองหน้าอกอย่างหน้าทน “ฉันรู้แต่แค่อยากมองนมเธอก็แค่นั้น” “คุณ!” “ไม่เอาน่ะ คุยธุรกิจเราดีกว่า...” เขาเปลี่ยนมาจ้องตาเธอนิ่ง แล้วเธอก็ยิ่งกว่าสะท้าน รู้สึกเหมือนเลือดมันไหลขึ้นหัว แก้มร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างน่าอาย “เธอจะคิดเท่าไหร่...ค่ามาทำงานกับฉัน” ทำไมเธอรู้สึกเหมือนเขาชวนเธอมาทำงานบนเตียง ไม่เอาน่า ไม่คิดฟุ้งซ่าน “สะ...สี่หมื่นค่ะ” จะพูดสามแหละ แต่เมื่อเห็นเขายิ้มเยาะจึงเพิ่มออกไป “ไม่แพงไปเหรอสำหรับคนที่เคยผ่าน...ประสบการณ์มาแล้ว...” อยากจะกรี๊ด เพราะตอนนี้เขามองต่ำลงมาที่สะโพก นี่เขากำลังคุยเรื่องอะไรกันแน่ “พ่อเลี้ยงกำลังพูดถึงเรื่องอะไร” “ก็เรื่องงานของเราไง” เขายอมรับเลยว่ายังติดใจมาก หลับๆ อยู่ก็ยังฝันถึงตอนเธอขย่มอยู่เหนือกาย “งานอะไรคะ ระบุด้วย” “ก็งานบัญชีไง หรือเธอคิดเรื่องอะไร” 4.คุณอาแสนดุ กรณ์...เขาคืออาแสนดุ สุดที่รักของเธอ กมลเนตร...เธอคือเด็กในปกครอง แสนดื้อ แสนรักของเขา “แล้วคืนนี้เราจะค้างกันที่นี่เหรอ” กรณ์อึดอัด แต่เขาก็จำใจต้องพูด คิดว่าจะได้ตัวสาวน้อยกลับบ้าน แต่ดูท่ามันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด “เนตรคงไปค้างกับพีทที่โรงแรมน่ะค่ะ” กรรวีหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่คิดว่าหลานจะกล้าพูดอะไรตรงๆ ต่อหน้าอาที่รักนางไม่ต่างจากพ่อคนหนึ่ง “พูดจาไม่อายปาก เราเป็นผู้หญิงนะกมลเนตร!” อาที่ดุเดือดคนเดิมกลับมาแล้ว ในสายตาอากรณ์ เธอคงเป็นเด็กเล็กที่ไม่มีวันโตเลยสินะ “ค้างที่บ้านย่าดีไหม บ้านย่ามีห้องเยอะเลย” กรรวีพยายามเข้าใจธรรมชาติของทุกคน “พีทเป็นแฟนเนตร” “ไม่ต้องย้ำบ่อยหรอก อาทราบ” กรรวีมองขิงก็ราข่าก็แรง “งั้นอาก็ต้องทราบไหมคะว่าคนเป็นแฟนกัน เขาก็นอนห้องเดียวกันทั้งนั้น” กรรวีถึงกับจิบน้ำชา เวียนหัวขึ้นมาทันที แม้จะเข้าใจ แต่ก็ยังมองว่าเรื่องชิงสุกก่อนห่ามนั้นมันยังคงต้องห้ามในสังคมไทย แต่อีกใจก็ไม่อยากเป็นผู้ใหญ่ที่มือถือสากปากถือศีล ไม่เข้าใจโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป “อาไม่ทราบ ที่นี่เ
ประกอบด้วย 8 เรื่องสั้น ใน 1 เล่ม 1.คู่ขาท่านประธาน 2.คุณลุงข้างบ้าน 3.คุณอาข้างเตียง 4.ขย่มสวาทคุณอาข้างบ้าน 5.อีหนูของลุง 6.แอบขย่มอา7.ป๋าขา หนูว่าต้องจัดแล้วแหละ 8.ยั่วรักลุงกร้าวใจ 1. #คู่ขาท่านประธาน “ว้าย!” ก่อนจะหวีดร้องเมื่อถูกสวมกอดจนล้มไปที่เก้าอี้ด้วยกัน “ขวัญเอ๊ยขวัญมา” เขาลูบแขนเรียวเสลาเบาๆ ก่อนจะพรมจูบไปตามไหล่ลาด “ท่าน...เอ่อ...พี่ภาสคะ คืนนี้ขอกลับบ้านก่อนได้ไหมคะ” “ทำไม...” แล้วจะให้เธอตอบว่าไงดี “คือ...ณดากลัวพ่อกับแม่สงสัยน่ะค่ะ” เธอไม่เคยไปค้างที่อื่นถ้าไม่จำเป็น แต่นี่กลับหายออกมาจากบ้านตั้งสองคืนติดๆ “งั้นพี่ไปขอให้เอาไหม” เขารวบเอวบางก่อนจะเขย่าเบาๆ ในขณะที่คนถูกถามนั้นอ้าปากค้างอย่างที่ไม่อยากจะเชื่อหู “พ่อกับแม่รู้เรื่องของเราไม่ได้นะคะ” เธอหันไปเว้าวอนเขาด้วยเสียงอ่อนๆ กลัวเขาโกรธและหุนหันเอาแต่ใจขึ้นมา มันจะยิ่งยุ่ง “ทำไม...พี่ไม่ยอมห่างเมียตัวเองหรอกนะ” แค่คืนเดียวที่พลาดท่า ทำไมเธอกลายเป็นเมียเขาได้ล่ะ “ณดา...เอ่อ...ณดา...ไม่ใช่เมียพี่สักหน่อย” เธอมองใบหน้าหล่อเหลาที่แข็งกร้าวขึ้นมาทันทีที่ถูกขัดใจ “ถ้าไม่ใช่เมีย...แล้วณดาเป็นอะไรของพี่ล่ะ” ที่สำคัญแล้วเขาล่ะ เป็นอะไรสำหรับเธอ 2. #คุณลุงข้างบ้าน กตตน์มองคนที่อยู่ในชุดนอนสีแดงเพลิง ผ้าซาตินลื่นๆ ไม่อยากจะคิดเลยว่าเด็กมาจีบมันดีแบบนี้นี่เอง “ว้า...มีเตียงเดียว มุ้งเดียว...เอาไงดีคะเนี่ย” ขวัญจิราปรายตามองลุงที่เปลือยอก กล้ามเนื้อกำยำนั่นน่ากัดให้ขาด ดูดให้เสียวจริงๆ จะว่าไปบ้านลุงไม่ได้กั้นห้องอะไร ขึ้นมาก็เป็นบ้านโล่งที่นอนของแกเลยตามประสาชายโสด มุ้งนี่จะไม่กางก็ได้เพราะมีมุงลวด แต่แกก็คงติดไว้เผื่อๆ อีกชั้น “หนูนอนไปก็แล้วกัน เดี๋ยวลุงเอาฟูกมาปูนอนมุมห้องก็ได้...” เขาจับผ้าขาวม้ามาปัดเตียงให้สาวน้อยอย่างดี แล้วพอเด็กมันนั่งเท่านั้นแหละ แม่เจ้าโว้ย! ท่าแบบนี้มันยิ่งกว่านางยั่วเสียอีก “ไหนหนูบอกโนแพนตี้ไงจ๊ะ” เขาเอ่ยแซว ถ่างขนาดนี้ไม่เห็นก็คงไม่ใช่แล้ว “ว้าย! นี่หนูหวอออกเหรอคะ” เธอแกล้งร้องอย่างมีจริตจะก้าน ก่อนจะถูกลุงจับข้อเท้าเอาไว้ “ไม่เอาน่า หนูแต่งมายั่วลุงไม่ใช่เหรอคะ” คะ...ขา... อีกแล้ว ลุงกตตน์จะยั่วให้เธอปล้ำเขาใช่ไหม “หนูเปล่านะ ไม่งั้นหนูก็ต้องโนแพนตี้มาแล้วสิคะ” “งั้นลุงขอพิสูจน์นะ...” “ว้าย!” ไม่ทันจะตั้งตัวก็ถูกดันให้นอนหงายลงมองเพดาน ใบหน้าคมคายและศีรษะใหญ่โตเหมือนจะมุดหายเข้าไปใต้ชายกระโปรงที่เปิดเปิงของเธอ 3. #คุณอาข้างเตียง “รู้ไหมว่าเป็นเมียอาต้องเจอกับอะไร” เขาลูบไล้ไปบนบ่าเล็ก เกี่ยวสายเดี่ยวเล็กๆ นั่นให้หลุดลงมาตามแขนบอบบาง “ไม่ทราบค่ะ...อืม...” เธอถูกขยี้ริมฝีปาก และมือสองข้างก็คล้องบ่าแกร่ง ก่อนจะโถมกายเข้าไปแนบชิดกับอกกว้าง จูบที่เริ่มจากความเร่าร้อน มันก็ดีไปอีกแบบ ความรู้สึกเหมือนกระแสไฟลามไปทั่วกาย มันวูบวาบและก็จั๊กจี้ไปทั่วทุกที่ มือกว้างลูบไล้มาตามแผ่นหลัง แล้วไม่นานมันก็ไต่ขึ้นมาจากทางชายเสื้อ เธอโนบราและตอนนี้อาก็คงรู้แล้ว “เป็นเมียอา ก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงผู้ชายคนไหนอีก” ภูบดีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตอนนี้ตากลับมาจ้องกัน แล้วปากก็ยังผนึกกันอย่างแนบแน่น มันใกล้จนมองไม่ชัด แต่ก็รู้สึกได้ว่าเธอนั้นช่างน่ารักและก็แสนจะโอนอ่อนผ่อนตาม “อืม...ค่ะ...อาก็เหมือนกันนะคะ ถ้าเป็นผัวบุษแล้ว อาก็ไม่มีสิทธิ์พูดถึงผู้หญิงคนอื่น และก็ห้ามรักใครมากกว่าบุษ ไม่แม้แต่พ่อของบุษ” เธอขยับปากเข้าใส่อย่างยั่วเย้า จงใจแลบลิ้นออกไปให้เขาดูดคลึง มือกว้างซุกซนแล้วก็ไล้มาทางด้านหน้า ไม่นานมันก็ตะปบมาบนเต้าของเธอ “อื้อ...อาขา...” เธอทั้งเด้งทั้งแอ่นให้กับมือข้างนั้น อยากให้อาภูทำแบบนี้กับเธอตั้งนานแล้ว เธอไม่ได้อยากเป็นหลาน เธออยากเป็นเมียอาภูต่างหาก 4. #ขย่มสวาทคุณอาข้างบ้าน “ผัวหิวแล้ว...” คำว่า ‘ผัว’ ทำให้คนที่กำลังทำอาหารเช้าถึงกับขนหลังคอลุกซู่ไปหมด “ทำอะไรให้ผัวกินเอ่ย” พอถูกอาปราบอ้อน ร่างกายมันก็เหมือนจะระทดระทวยไปหมด “ไม่ตอบ ผัวจะกินเมียนะ” “อ๊ะ...” มือกว้างลูบไล้ลงต่ำ แล้วสะโพกสอบก็จงใจถูไถเนื้อตัวเข้าใส่อย่างวาบหวาม “ซี้ด...” ปราบสนุกกับแก้มที่แดงลามมาที่หู เขาจงใจสูดปากไปที่ข้างหู “ขะ...ข้าวต้มหมูสับค่ะ อืม...” มือกว้างตะปบลงมาอย่างแม่นยำ เขาจงใจเคล้นคลึง “อาหิวแล้ว ควรทำยังไงดี...หืม...” เขาแกล้งงับใบหูอีกฝ่าย ชอบยามร่างเล็กสั่นสะท้าน “รอแป๊บนะคะ” เธอวางทัพพีลงแล้วก็ถูกพลิกให้หันกลับไปจ้องตากับคนที่จ้องอยู่ก่อน “ไม่รอแล้ว ต้องเดี๋ยวนี้เลยได้ไหม” มือกว้างขยำลูบไล้ไปทั่ว “น่าจะสุกพอดีค่ะ” เธอกำลังจะหันกลับไปปิดเตา แต่ก็ถูกรวบเอวจนร่างกายขยับเข้าไปแนบชิดกัน “หิว...จนตาลายไปหมดแล้ว” เขาใช้จมูกปัดป่ายจมูกเล็กเบาๆ “งั้น...อืม...” เธอถูกจูบดูดดื่ม หัวหมุนติ้วไม่รับรู้อะไรนอกจากลิ้นสากที่กำลังพลิกพลิ้วหยอกเย้า “อ่าห์...ปากหวานและก็อร่อยจัง” 5. #อีหนูของลุง แม่คุณเอ๊ย! สงสัยจะอยากได้ผัวในน้ำ “ลุง!” “อะไร...” นำทัพลูบไปกับบ่าเล็กของคนที่ซบมากับซอกคอ แขนกุด โนบราเสียด้วย อะไรมันจะเอ็กซ์ขนาดนี้ “เหมือนมันจะมีงูด้วย” แม่คุณเอ๊ย! ช่างสวยใส ไร้เดียงสา “เอางี้...หนูอยู่เฉยๆ แล้วเดี๋ยวลุงจะพาหนูขึ้นจากน้ำก่อน แล้วจะดูให้ว่ามีตัวอะไรกัด บางทีอาจจะเป็นตะขาบ” เขาแกล้งขู่ ตะขาบมีที่ไหน แต่ไอ้ปลิงเจ้าชู้น่ะไม่แน่ “หนูไม่เอาตะขาบนะ” “ว่าแต่หนูไม่ใช่คนแถวนี้เหรอ” นำทัพรู้สึกว่าหน้าคุ้น แต่นึกยังไงก็นึกไม่ออก “หนูพระพายไงคะลุง” เธอถูกช้อนอุ้ม ลุงแข็งแรงมาก แถมยังหล่อกร้าวใจเหมือนเดิมไม่มีผิด “พระพาย ลูกตานิตกับยายแสงเหรอ” “ใช่ค่ะลุง” เขาวางเธอกับพื้น ก่อนจะปีนขึ้นมาจากท้องร่อง กางเกงที่ลู่ไปกับเป้าที่ตื่นตัวมันถึงกับทำให้เธอหยุดมองไม่ได้ “ลุงเลยตัวเปียกเลย หนูขอโทษนะคะ” นำทัพมองคนที่กระพุ่มมือไหว้ ในน้ำว่าเอ็กซ์แล้ว ขึ้นบกมานี่คือโคตรเอ็กซ์ 6. #แอบขย่มอา ตอนนี้มองคนที่เสื้อหลุดไปแล้ว ไรขนเรียงกันสวย อาไม่ได้กล้ามแน่นมาก แต่
The girl with claws of metal, an evergrowing power, a thirst for revenge and madness. Elliott Walters might look like any other guy but he had secrets to keep. Being an illegal underground detective, he and his team were ready to rise against the enemy who was terrorising the city. But little did he know the villain would lure him in, settle in his mind and steal his heart. What will happen when the boy with a dark past meets the girl who he was set out to kill?
"Her zerreni istiyorum,"dedi, bedenime yürüyerek. "Seni,bana katmak istiyorum." "Kat,"dedim, cesurca. Onu istiyordum,hep olduğu gibi. Hep olacağı gibi. Onu her yerde istiyordum ve o benim her yerimdeydi. Aklımda, kalbimde... O,bendi. Düşündüğüm aksine arkama geçen beden ve hemen ardından bedenimde hissettiğim istek üzerine derince yutkundum. Kalçamın biraz üstünde bana baskı yapan ereksiyonu üzerine gözlerimi yumdum, dayanamadım. Söz konusu o olunca iradesiz biri oluyordum. "Gözlerini aç ve tam karşındaki aynaya bak,"dedi, nefesini kulağımın arkasına üflediği sırada. Kolumdan tutup olduğum yeri değiştirdi,bununla birlikte gözlerimi aralamak zorunda hissettim. Küçük bedenimin arkasında onun iri bedeni, yıkılmaz bir dağ gibiydi ve ben,o yıkılmaz dağa sırtımı yaslamıştım. Ona güvenmiştim,hep olacağı gibi. Siyah saçlarım,iki yana düşmüş az da olsa çıplaklığımı gizlemeye yetmişti. Askıları olmayan beyaz iç çamaşırım, sadeydi lakin bedenimde farklı duruyordu. Galiba... Seksi. "Bu gece aklını alacağım,"dedi, kulağıma doğru ama gözleri aynada benim gözlerime tutunmuştu.(Yetişkin içerik ve argo kelimelere yer verilmiştir!🥀)
เมียเก็บอุ้มรัก อนล...เขาแอบหลงรักสาวน้อยคนหนึ่ง ก่อนจะอุปถัมภ์ให้เธอได้มีการศึกษาและชีวิตที่ดี พีรดา...เธอมีชีวิตอยู่เพื่อตอบแทนคำสัญญาและบุญคุณของผู้ปกครองที่เธอแอบรัก จากคำสัญญาเรียกร้องขอ ‘หนึ่งชีวิตน้อย ๆ’ เป็นสิ่งตอบแทน สู่บทบาทการเป็นภรรยายอดรักยอดปรารถนาของเขาชั่วนิรันดร์ ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “อย่าอายไปหน่อยเลย ของแบบนี้น่ะมันเป็นเรื่องธรรมดา พรีมเองก็ควรจะเริ่มแก้ผ้าได้แล้วนะ พี่ไม่ชอบคนชักช้า ไม่ทันกิน” ดีจริงๆ เด็กนี่ก็รีบกุลีกุจอแก้ผ้า ใครจะคิดว่าเด็กท่าทางเรียบร้อยหัวอ่อนตรงหน้าจะเต็มไปด้วยความดื้อด้าน และไม่นานเกินรออีกฝ่ายก็แก้ผ้าออกจนหมดสิ้น ถึงกลับเผลอกลั้นใจกับภาพที่เห็น โนมเนื้ออวบใหญ่ รับกับเอว และสะโพกที่ผายแบบพอดิบพอดี หุ่นนาฬิกาทราย ซ่อนรูปเหลือเกิน “ขยับมาตรงนี้” พีรดาคลานเข่าไปอย่างว่าง่าย แม้จะอายแสนอายที่ต้องมาแก้ผ้าอยู่ด้วยกันกับเขา แต่พอคิดถึงบุญคุณและหน้าที่ รวมไปถึงความรักและภักดี ก็คิดแล้วว่าจะไม่มีวันเสียใจ “จูบพี่สิ ทำให้พี่ต้องการพรีม...” “ค่ะ...” รับคำทั้งที่จมูกก็คลอเคลียกันไม่ได้ห่าง มือค่อยๆ ประคองกระชับแก้มสากก่อนจะสัมผัสริมฝีปากลงไปอย่างแผ่วเบา จูบนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว และเธอก็ตั้งใจจะทำมันให้ดีที่สุด ทันทีที่ปากจิ้มลิ้มบดคลึงเข้าหา ปากก็โรมรันเข้าใส่อย่างร้อนแรง ลิ้นเกี่ยวแน่นพันตู และมือใหญ่ก็จับศีรษะเล็ก รวบท้ายทอยให้เธอจูบตอบเขาอย่างไม่มีทางถอยหนี “อื้อ...พี่ไฟคะ” ยิ่งได้ยินเธอคร่ำครวญชื่อตัวเอง ยิ่งมือเล็กจับมือเขาให้ไล้ไปตามโนมเนื้อ ความอดทนและทุกอย่างก็เป็นอันสิ้นสุด -------------------- สามีบำเรอ บุรัสกร...เธอคือคุณหนูอารมณ์ร้าย และเขาก็คือผู้ชายของเธอ ศรา...เขาเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว ก่อนจะลงเอยด้วยการเป็นสามีบำเรอให้เธอด้วย ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “ฉันสามารถรับผิดชอบตัวเองได้ โอเคนะ” “ผมไม่ให้ไปไง!” ครั้งนี้เธอถูกกระชากเข้าไปใกล้คนที่ขยับขึ้นมาอยู่กลางเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ศราหล่อเหลา ข้อนี้เธอไม่เคยกังขา และยามเขาโกรธเกรี้ยวแบบนี้ เสน่ห์ของเขาก็เหมือนจะแผ่กระจายออกมาจนมิดห้อง “ทำไม...ทำไมนายต้องมาบังคับฉันด้วย นายไม่เอาฉันก็ไม่ได้หมายความว่าผู้ชายคนอื่นจะไม่ต้องการฉันนี่” เธอรู้สึกถึงมือแกร่งที่โอบรัด “ผมต้องการคุณไง แต่ผมทำไม่ได้...” “งั้นก็ปล่อย” เธอพยายามแกะมือแกร่ง แต่กลับยิ่งถูกกอดแน่นขึ้น “ผมขอร้อง อย่าทำแบบนี้ อย่าทำลายชีวิตตัวเอง” “ฉันแค่นอนกับคน แค่มีเซ็กซ์ ฉันไม่ได้ทำลายชีวิตอะไรเลย มีแต่สนุก มีแต่มีความ...อื้อ...” เธอไม่คิดเลยว่าเขาจะกระแทกริมฝีปากเข้าใส่ แล้วไม่นานปากก็เม้มกันเบาๆ เธองับปากเขา เขาไล้เลียริมฝีปากเธอ ร่างกายผวาเข้าใส่กัน แล้วลิ้นสากก็จู่โจมเข้าไปในโพรงปากของเธอ สายตากลับมาประสานกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ผมจะนอนกับคุณเอง” ---------------------- นางบำเรอคั่นเวลา ตรัยคุณ...เขามองเธอเป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ดาหลา...เธอมองเขาเป็นทุกอย่าง จนยอมแม้ตัวเองจะเป็นแค่เพียง ‘นางบำเรอคั่นเวลา’ --------------------------------------------------------------------------------------------------------------- “ทำไมเป็นเธอ” ตรัยคุณเอ่ยถามเสียงเครียด ไม่คิดว่าจะได้เจอคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ “คือ...” ดาหลาก็จนใจจะตอบ ช้อนตาขึ้นมองคนตรงหน้า ก่อนจะรีบก้มลงหลบตา บีบไม้บีบมือตัวเองแน่น “เอ้า! ตอบสิ ทำไมเป็นเธอ” เขาเท้าสะเอวจ้องคนที่กล้ามากนะ กล้าถึงขนาดอาบน้ำ ใส่แค่เสื้อคลุมรอผู้ชายอยู่ในห้องของเขา “พี่ดีดี้ไม่ว่างค่ะ” เธอตอบออกไปเบาๆ ตอนนี้จิกมือตัวเองจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึก พี่ดีดี้หรือดาลัดคือพี่สาวแท้ๆ ของเธอ และก็เป็นคนที่ ตรัยคุณแอบชอบมาตลอด “พูดง่ายดีนี่ เธอรู้หรือเปล่าว่าฉันกับพี่สาวเธอตกลงทำอะไรกัน” “หนูทราบค่ะพี่ตรัย...” ก็ถ้าไม่รู้มาก่อน เธอจะมาแก้ผ้าใส่แค่เสื้อคลุมรอในคอนโดเขาเหรอ “ทราบ แล้วเธอก็มาเนี่ยนะ” ไม่รู้สิ เห็นเธอตั้งแต่เด็กๆ มั้ง มันก็เลยอดที่จะผิดหวังขึ้นมาไม่ได้ กับดาลัดคนพี่ เขาเห็นอีกฝ่ายเป็นหญิงสาวมาตลอด แต่กับดาหลา เขารู้สึกเหมือนเธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง “พี่ตรัยรับหนูเป็นนางบำเรอแทนเถอะนะคะ” รู้อยู่ว่าคนที่เขาสนใจคือพี่สาว แล้วพี่ตรัยก็ตกลงเรื่องนี้กับพ่อและก็พี่ดีดี้ไปแล้วด้วย แต่สิ่งที่พี่ตรัยไม่รู้คือพี่ดีดี้เขาไม่ได้ชอบพี่ตรัย แล้วเขาก็หนีไปกับแฟนตั้งแต่เมื่อวันก่อนแล้ว ตอนนี้พ่อก็ไม่รู้ว่าไปอยู่บ่อนไหน คงกำลังถลุงเงินค่าจ้างที่พี่ตรัยใช้จ้างพี่ดีดี้ไปจนหมดแล้ว “ฉันไม่เอา!” เขาสะบัดมือออกจากไหล่เล็กราวกับแตะต้องของร้อน “ทำไมคะ” เธอลุกขึ้นเผชิญหน้ากับคนที่ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ในสายตาพี่ตรัย เธอคงไม่มีความน่าเสน่หาเลยสินะ “ก็เพราะว่าเธอเด็กไป...” เด็กอะไร เธอเด็กกว่าพี่ดีดี้แค่ 4 ปีกว่าเท่านั้นเอง “เธอยังไม่ยี่สิบเลยไม่ใช่เหรอ” ในขณะที่เขาน่ะ 34 เข้าไปแล้วนะ ที่สำคัญเขามองเธอเป็นเด็กในซอยมาตลอด จะให้คิดเกินเลยมันก็เหมือนผู้ใหญ่รังแกเด็ก “ไม่ใช่ค่ะ หนูยี่สิบเอ็ดแล้วค่ะ” ปีหน้าก็จะเรียนจบแล้วด้วยซ้ำ แม้จะเป็นความยากลำบาก แต่เธอก็คือหนึ่งในความภูมิใจของพี่ดีดี้ ที่ยอมเสียสละดรอปเรียนทันทีที่มารดาจากไป “ก็นั่นล่ะ...” เขาจะจำได้ไง แค่คุ้นๆ ว่าไม่กี่ปีก่อนเธอยังวิ่งเล่นในซอยกับเด็กๆ แถวบ้านอยู่เลย “พี่ตรัยรังเกียจที่หนูไม่สวยเท่าพี่ดีดี้ใช่ไหมคะ” ดาลัดพี่สาวของเธอสูงยาวเข่าดี หุ่นนางแบบ ในขณะที่เธอก็แค่มาตรฐานหญิงไทยธรรมดาๆ คงไม่คู่ควรกับไฮโซแบบพี่ตรัยสินะ “เฮ้อ...” นี่ไง...เขาถอนใจแทนการจะตอบ แถมยังเดินไปเปิดไฟในห้องจนสว่างโร่ ปิดเพลง เป็นอันสิ้นสุดความโรแมนติกที่เขานั่นแหละให้คนเตรียมเอาไว้ก่อนที่จะกลับมา
Pertama kali melihat Hani tersenyum, saat itu juga Rendra ingin mengabadikan senyum itu dengan kamera polaroidnya. Rendra merasa ia berpikir konyol karena Rendra bahkan tidak mengetahui nama Hani saat itu. Beberapa bulan kemudian, Rendra kembali bertemu Hani. Tanpa pikir panjang, Rendra langsung mendekati Hani, yang apesnya berujung penolakan. Rendra kecewa namun tidak berlarut dalam kesedihan. Toh, banyak ikan di laut sana. Perempuan bukan hanya Hani. Rendra mau melupakan Hani, tetapi, ada takdir benang lain muncul yang bisa mempertemukannya dengan Hani. Kali ini Rendra berhasil bertemu kencan dengan Hani, dan ternyata, Hani lebih menyenangkan, lebih pintar, dan lebih mengagumkan dari yang ia bayangkan. Ah, Rendra merasa sangat nyaman berada di dekat Hani. Tetapi, Hani masih was-was berada di dekatnya. Hani selalu menjaga jarak. Baik fisik atau psikis. Hani tidak pernah berdekatan dengannya kurang dari 100 cm, Hani pun tidak pernah bercerita banyak tentang dirinya. “Kenapa kamu suka kaget tiba-tiba, Hani?” Hani hanya tersenyum.
ลักหลับเพื่อนสนิท ภีมเริ่มรู้สึกตัวเมื่อฝันดีๆ มันหยุดชะงักเสียกลางคัน ตาคมมองเพดาน ก่อนจะปรายตามองคนที่นอนลงข้างๆ ยาหยีแก้ผ้าแล้ว และก็กำลังลูบไล้เต้าขาวๆ ของตัวเอง มือเล็กคีบไปบนหัวทับทิมสีหวาน ตอนนี้ภีมอยากให้ห้องนี้สว่าง แต่ไฟมันสลัวจนเขามองอะไรไม่ชัดเอาเสียเลย “อ๊า...โอ้ว...” เสียงนั่นคือเสียงครวญครางด้วยอารมณ์พิศวาส แล้วไม่นานเกินรอก็เห็นขาเรียวเสลาชันขึ้น นี่ยาหยีกำลังช่วยตัวเองทั้งที่มีเขานอนข้างๆ เนี่ยนะ มือบางคว้าจับมาบนเนื้อตัวเขา นี่ไม่ใช่ฝัน แต่เป็นเรื่องจริง นี่เขากับเพื่อนกำลังแก้ผ้านอนเปลือยเปล่าอยู่ข้างๆ กัน มือข้างหนึ่งของเธอคว้าหมับมาบนตัวตนของเขาในขณะที่มืออีกข้างก็กำลังทรมานตัวเอง ------------------------. สาวใช้บำเรอกาม รสรินแกล้งเดินถอยหนีคนที่เดินต้อนเข้าใส่อย่างมีชั้นเชิง แขนเรียวเสลาขยับนิดๆ สายเล็กๆ นั่นก็หลุดลงจากบ่า ผู้ชายน่ะ ถ้ามันง่ายจนเกินไป ก็จะไม่ติดอกติดใจ แต่ถ้าได้ตะครุบ ได้คุกคาม ได้ปราบพยศ ได้ทำตามสัญชาตญาณนักล่า ร้อยทั้งร้อยก็มีแต่อยากได้มากขึ้น “หนูขอตัวไปนอนก่อนนะคะ” “ไม่เอาน่า เธอแต่งมาขนาดนี้แล้วโรส อยากโดนดุ้นฉันก็แค่บอก” เขาใช้สองแขนเท้ากับประตู ตอนนี้กักตัวคนที่ไม่มีที่ให้ถอยแล้ว สายตาคมโลมเลียมองไล่จากปากแวววาว ต่ำลงไปจนถึงเนินอกที่ขาวเนียนและทรวงอกที่กำลังดุนดันผ้าซาตินแนบเนื้อนั่นจนเป็นเม็ดเป็นจุกให้ได้เห็น ------------------ สอนสวาทเมียเด็ก “ผัวขา...เมียต้องการผัวค่ะ” “ร่าน...แค่นี้ก็ร้องหาผัวแล้ว แต่แฉะซะชุดนอนเปียกขนาดนี้ ต่อให้ต้องขย่มตอไม้ เธอก็คงทำอย่างไม่อาย” “ค่ะ...” เธอตะปบตอไม้ของคนปากเสียบ้าง แล้วก็จงใจเคล้นแรงๆ จนท่อนเขื่องนั่นเหมือนจะเหยียดขยายคามือของเธอ กรินทร์หน้าแดงซ่าน ตอนนี้เขาอยากจะครวญให้กับมือเล็กๆ นั่น แต่ก็ต้องยั้งเอาไว้อย่างสุดความสามารถ “เอากันไหมคะพี่ช้าง น้องดาเสียวร่องอยากได้ตอไม้ของพี่แล้วค่ะ” กรินทร์ถูกโถมเข้าใส่ ปากจิ้มลิ้มจู่โจมมาบนปากเขาราวกับหิวกระหาย เขาอยากจะผลักไส แต่ความหวานจากปากเล็กๆ นี่ก็ทำให้เปลี่ยนเป็นกอดรัดอีกฝ่ายเอาไว้แน่น หุ่นเนื้อ นม ไข่แบบนี้ ไม่ฟัดจนสว่างคาตาก็คงจะเป็นผัวแก่ที่โง่น่าดู .------------------- ยั่วรักพี่ชายข้างห้อง “พี่...” เขามองใบหน้าจิ้มลิ้มที่คลอเคลียไม่ได้ห่าง ไฟสลัวยังเห็นสายตาที่จงใจทิ้งสัญญาณเชิญชวนอย่างเห็นได้ชัด “พี่อะไรเหรอคะ” เธอแกล้งไล้ไปตามสันจมูกโด่ง เธอจีบเขามาตั้งเกือบปี แต่เขาก็ทำตัวแสนดีไม่คิดรุกกลับสักที เกิดวันหนึ่งเขามีเมียเป็นตัวเป็นตนขึ้นมา คนที่ต้องน้ำตาเช็ดหัวเข่าไม่กลายเป็นเธอไปเหรอ “อย่ายั่วพี่แบบนี้” เขาดันร่างอิ่ม ก่อนจะกดมือเล็กทั้งสองข้างลงกับเตียง พอมาอยู่ท่านี้ อีกฝ่ายยิ่งน่าพิสมัยมากขึ้น “ทำไมคะ เพราะพี่ไม่ชอบผู้หญิงหรือว่าเพราะพี่ไม่กล้าปล้ำเมษาคะ อื้อ...” เธอถูกปากหยักกระแทกลงมาบนปากเล็กๆ ของตัวเอง แล้วการตะโบมจูบก็เริ่มขึ้น มันร้อนแรงและก็แสนตื่นเต้น เหมือนลิ้นสากจะบดเบียดและก็นัวเนียลิ้นเธออย่างหวามใจ เป็นหลายนาทีที่เธอทำตัวไม่ถูก ทำได้เพียงแค่เลียนแบบ และก็ไซ้ลิ้นกลับไปอย่างว่านอนสอนง่าย “พี่ชอบผู้หญิง และพี่ก็กล้าปล้ำเมษา...” แก้มแดงๆ นั่นยิ่งมองก็ยิ่งเร้าอารมณ์ แล้วยังไอ้จูบไม่ประสีประสาเมื่อสักครู่ล่ะ ---------- คุณหมอตอเถื่อน “เอาสักมวนไหม” “เอ่อ...หนูไม่สูบค่ะ” “เสียดายนะ เซ็กซ์ร้อนฉ่ากับบุหรี่ผ่อนคลาย ออกจะเข้ากัน” ถ้าใครมาบอกว่าเขาเป็นคุณหมอที่สุขุมรอบคอบเจ้าของบ้านแสนสวยหลังนี้ตอนนี้ เธอคงไม่เชื่อ ผมเผ้ายุ่งๆ กับเรือนกายบึกบึนที่เปลือยเปล่าอย่างมั่นใจ ลุคแบดๆ และการแสยะยิ้ม เขาน่าจะเหมือนตัวร้ายในละครเสียมากกว่า “อยากมองก็ไม่ต้องเขิน จ้องมาเลย” เขาขยับมาเชยคางคนที่แอบมองตัวเองเป็นระยะๆ หน้าตาแบบนี้มันน่าจะซ้ำอีกสักหลายๆ ยก “หนู...ไม่ได้จ้องนะคะ” ไม่รู้ว่าเอาความกล้าที่ไหนมาเถียง “งั้นก็แอบมอง” “ปะ...” เธอเม้มปากเมื่อเขาจ้องมาไม่วางตา รังสีที่แผ่ซ่านออกมามันทำให้เธอรู้สึกว่าควรเจียมตัวและก็ต้องว่านอนสอนง่าย ติ้ง...ติ้ง... เธอคว้าโทรศัพท์มือถือตัวเองมากดดู ก่อนจะตาเบิกกว้าง เจ็ดพัน “ถึงเธอจะทำฉันแตกไม่ได้...” เขาเป่าควันใส่ใบหน้าจิ้มลิ้ม น่าอับอายจังพอเขาพูดใส่หน้าตรงๆ แบบนี้ ขนหลังคอลุกซู่ทันทีที่เขาขยับมาในระยะประชิด ทำไมมันร้อนวูบวาบไปหมด และเป็นอาการที่บ่งบอกชัดเจนเลยว่าเธอนั้นไม่รักดีเอาเสียเลย “แต่ก็ถือว่าฉันให้พิเศษค่าที่ยอมให้ฉันแตกในตัว...” ---------------------- ผัวเด็กตอดุ “ผู้ใหญ่ดื้อต้องโดนอะไร...” แพรไหมสะดุ้งวูบเมื่อเห็นเด็กเพลิงคมกำลังอัดบุหรี่เข้าปอดอยู่ที่ข้างๆ รถเธอ ชั้นนี้อยู่ใต้ดิน ค่อนข้างเปลี่ยว และเธอก็ไม่รู้ว่าควรหนีไปไหน ในเมื่อตรงหน้านี้คือยานพาหนะของเธอ “เมียดื้อ...ต้องโดน...กระแทกรู้ไหม” เพลิงคมโยนบุหรี่ทิ้งก่อนจะขยับเข้าไปหาคนตรงหน้าในระยะประชิด เธอดื้อเหรอ ตรงไหน ทำไมไม่รู้ตัวเลย เขารอเธอติดต่อกลับไป แต่ก็ได้รับกลับมาเพียงความเงียบ พอมาตามดูวันก่อนถึงได้เห็นว่ายังมีผู้ชายคนเก่าตามมาตอแย นี่หรือเปล่าคือเหตุผลที่เธอไม่คิดถึงกัน ร่างแกร่งประกบทาบทับกับเนื้อตัวเธอ ทำจนเธอที่กำลังจะเปิดประตูถูกทาบทับลงไปจนติดประตู “ยะ...อย่า...” เสียงครวญห้ามมันดังกระเส่า แต่เอวแกร่งกลับยิ่งสอดเสยมาที่หว่างขาพร้อมกับมือกว้างที่ไล้มาจากชายกระโปรงด้านหน้า “คุณยังไม่ตอบผัวเลย ผมก็ไม่จำเป็นต้องหยุดไหม...” “อ๊ะ...อย่า...” มือกว้างประกบมากลางเนินสามเหลี่ยม “นี่มันที่ทำงานพี่นะ” ที่นี่มี CCTV และถ้าใครมาเห็นเข้า เธอคงต้องได้อับอาย “งั้นเราไปที่อื่น...” “โอ้ว...” เธอจิกไปบนท่อนแขนคนที่โอบเอว แต่นิ้วยาวๆ นั่นกำลังซุกไซ้ไปในร่องสาว มันอันตราย น่าอาย แต่ขณะเดียวกันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ------------ คืนร้อนกับพี่ชายเพื่อน “ตรงนี้บอกชัดเลยว่าเธอต้องการอะไร” ปากหยักตะโบมเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง มันหวานล้ำขัดกับถ้อยคำร้ายๆ ที่เขาจงใจพ่นใส่ “อ๊า...” “พูดสิ แล้วฉันจะมอบมันให้เธอ” “ซี้ด...” เสียววูบวาบไปทั่วทั้งช่องท้อง เพียงแค่เขาส่ายเสียดเนินหน่าวลงมาอย่างต่อ
Türkler "Barak" derlerdi, kara tüylü köpeğe, Böyle ad verirlerdi, büyük soylu köpeğe. Aslında efsaneler, bir köpek anarlardı. Onu da köpeklerin, atası sayarlardı. Bu köpek soylu idi, çok büyük boylu idi, Av çoban köpekleri, hep onun oğlu idi. Kuzey-batı Asya'da güya "İt-Barak" vardı, Türklerse İç Asya'da, onlara uzaklardı. Başları köpek imiş, vücutları insanmış, Renkleriyse karaymış, sanki Kara Şeytanmış. Kadınları güzelmiş, Türklerden kaçmaz imiş, İlâç sürünürlermiş, ok mızrak batmaz imiş.
วมเรื่องสั้นชุด รสรัก 1.รสรักสาวอวบ 2.รสรักสาวเฉิ่ม ขวัญสุธา...เธอไม่เคยคิดว่าจะได้พี่คิงมาเป็นสามี ภวัต...เขาคือพี่คิงที่ติดใจในรสรักของสาวอวบแบบเธอ “ไม่อยากท้องกับพี่ใช่ไหม” เขาคาดคั้นคนที่เอาแต่เบิกตากว้าง อย่าคิดว่าแค่ทำตัวน่ารักๆ แล้วเขาจะยอมให้เธอนิ่งเงียบแทนการตอบ “อ๊า...” เธอถูกเขาจูบลงโทษอย่างดุดัน แต่ใจมันก็กระสันแต่เนื้อตัวบึกบึนที่โถมทับอย่างไม่น่าให้อภัย เธอมันไม่รักดี ต้องการทุกอย่างที่เป็นเขา แค่เขาเท่านั้นที่เธอปรารถนาในเวลานี้ และก็มั่นใจว่าคงตลอดไป “ได้พี่แล้ว ก็ต้องรับผิดชอบพี่ พี่ไม่ยอมให้น้องมาทิ้งขว้างหรอกนะ!” “แล้วใครว่าน้องจะทิ้งขว้างพี่คิงล่ะ” เธอลูบไปบนบ่าบึกบึนของคนที่หน้าบูดหน้าบึ้ง “ไม่รู้สิ น้องรักไอ้คินไม่ใช่เหรอ พลาดมาปล้ำพี่ บางทีน้องอาจจะเปลี่ยนใจ” “พี่คิงรู้เหรอคะ” เธอตัวแข็งเลย เพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องที่เธอแอบชอบพี่คิน “นี่ไง! นี่ไง!” เขาลุกขึ้นนั่งกอดอก ไม่พอใจสุดๆ “ฟังน้องก่อนค่ะ น้องไม่ได้หมายความตามที่พี่คิดค่ะ” เธอตามติดขึ้นนั่ง แล้วพอมองตาที่จ้องกันเป็นมันก็รีบคว้าผ้าห่มอีกผืนขึ้นมาห่อตัว “หวงตัวกับพี่ตลอด” ภวัตตั้งใจสะบัดหน้าไปอีกทางแรงๆ ก็จะดูสิว่าเมียจะง้องอน หรือปล่อยให้เขาบ้าไปตามลำพัง “ถ้าข้าวโพดหวงตัวกับพี่คิงจริงๆ เรื่องมันคงไม่เลยเถิดแบบที่กำลังเกิดขึ้นนี่หรอกค่ะ” เขาหันไปอ้าปากค้างใส่คนที่กล้าพูด ก่อนจะสะบัดหน้าหนีแรงๆ จนคนมองอย่างขวัญสุธายังแอบกลัวเขาคอเคล็ด “ไม่งอนสิคะ น้องง้อนะ โอ๋ๆๆ” เธอขยับเข้าไปสวมกอดคนที่นั่งตัวแข็ง “ก็อธิบายสิ” ภวัตตัวอ่อนยวบยาบทันทีที่เธอขยับมาหอมแล้วก็นั่งตักอย่างออดอ้อน “เร็วๆ” เขาเร่งเร้าแล้วก็กอดเอวอวบของคนที่เอาแต่จ้องหน้านิ่ง มาทำหน้าตาน่ารักแบบนี้ เดี๋ยวพ่อจะกดจะปล้ำลงกับเตียงต่อซะเลยดีไหม “แต่ต้องสัญญาว่าฟังจบจะไปทำแพนเค้กกับไข่เจียวออมเล็ตให้น้องทานนะคะ” “ไม่รู้สิ ถ้าพูดไม่ถูกหูก็จะปล้ำ ไม่ให้กินข้าว ให้อดจะได้ผอมๆ” เขาจูบปลายคางมน ตัวหอมๆ แบบนี้ยังมากล้าต่อรอง “น้องกลัวเลยค่ะ” ภวัตแยกเขี้ยวใส่คนที่กล้าท้าทาย ลูบก้นนุ่มก่อนจะขยำแรงๆ อย่างมันเขี้ยว “น้องยอมละ น้องจะพูดละค่ะ” เธอกอดบ่ากว้าง พอพี่คิงมาซบกับบ่านี่ก็รู้สึกดีขึ้นมาอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะรู้สึก “เร็วๆ เลย ผัวหิวนมด้วย” “บ้า!” เธอตีคนเซี้ยวเบาๆ “เอาเรื่องแรกเลย รักใคร ผัวหรือไอ้คิน” เขาตีตรงเลยดีกว่าไม่ยืดเยื้อ “แต่ก่อนคิดว่ารักพี่คิน” “นอนลงเลย ไม่คุยแล้ว” “ฟังก่อนสิคะ คนใจร้อนของเมีย” เธอกดหอมไปบนหน้าผาก แล้วก็ดีใจที่เขายอมสงบลงบ้าง “ต่อเลย พูดไม่ถูกหู โดนลงโทษแน่” แค่คิดถึงบทลงโทษก็แก้มแดงร้อนผ่าวไปหมด รสรักสาวเฉิ่ม ภคิน...เขาแอบหลงรักสาวเฉิ่มที่หลงรักพี่ชายของตัวเอง เพลงพิณ...เธอคือสาวเฉิ่มที่ไม่คิดว่าเขาจะรักตอบ “ก็เธอคันไม่ใช่เหรอ!” “คันยังไงคะ ถ้าพี่หมายถึงที่เพลงมางาน เพลงกับพี่คิงก็เป็นพี่น้องกัน เพลงมีสิทธิ์มาแสดงความยินดีกับพี่ชายที่เพลงนับถือ...” “หน้าด้าน! เขามีเมียเป็นตัวเป็นตนแล้วก็ยังมาอ่อย” นี่เขาว่าเธอแรงเกินไปไหม เธอมองจ้องตาดำๆ คู่นั้น เสียใจที่เขาไม่เคยแม้แต่จะพยายามเข้าใจคนแบบเธอ “ค่ะ มีอะไรจะด่าอีกไหม” เธอยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่ไม่ได้ตั้งใจให้ไหล “ระริกระรี้จะต้องหาผัวในงานพี่คิงให้ได้สินะ” “เพลง...” เธอขมวดคิ้วแน่น “ไม่เข้าใจ” “ก็ไอ้พี่ณัฐนั่นไง!” “ค่ะ!” เธอเงยหน้าขึ้นรับคำ เอาสิ เธอทำอะไรก็ไม่เคยจะถูกอยู่แล้วนี่ ติ๊ง! เสียงประตูที่เปิดออก ทำให้ภคินลากคนที่ลอยหน้าลอยตาออกมาจากลิฟต์ด้วยกัน “ปล่อยเพลงนะ! เพลงไม่ไปไหนกับพี่ทั้งนั้น” เธอพยายามจิกเท้าเอาไว้กับพื้น แต่รองเท้าส้นสูงที่ใส่มานี่มันก็ไม่อำนวยความสะดวกเอาซะเลย “จะขัดขืนเพื่อให้ได้อะไร” วันนี้เพลงพิณสวยมาก ตรงกันข้ามกับภาพลักษณ์สาวเฉิ่ม แว่นหนา เกล้าผมมวยตึงที่ตัวเองมักแต่งในเวลาปกติ ชุดราตรีคอลึกนั่นโชว์ของดีที่เขาไม่อยากให้ใครเห็น เขายังจำทรวดทรงองค์เอวใต้ร่มผ้าทั้งหมดนั้นได้ หุ่นแบบที่จับต้องตรงไหนตัวเขาก็ร้อนผ่าวลามไปทั่วร่าง “เราไม่ได้เป็นอะไรกัน พี่คินไม่มีสิทธิ์มาลากเพลงแบบนี้!” “ฉันจะทำ แล้วเธอจะทำไม” เขาลากและก็ดึงจนในที่สุดร่างบอบบาง ก็เข้ามาอยู่ในวงแขน ระยะทางแค่นี้เขาเอาอยู่ แล้วก็มั่นใจด้วยว่าวันนี้จะไม่มีใครเข้ามาขัดจังหวะได้แน่ “พี่เป็นบ้าเหรอ มายุ่งกับคนหน้าด้าน ไร้ยางอายแบบเพลงทำไม” ตอนนี้แทบจะถูกเขาอุ้ม แล้วไม่นานประตูห้องตรงหน้าก็ถูกเปิดกว้าง ข้างในมีคีย์การ์ดเสียบอยู่แล้ว แอร์เลยเย็นฉ่ำ ไฟสว่างโร่ ไม่บอกก็รู้ว่าเป็นห้องแต่งหน้าแต่งตัวเจ้าสาว แต่เธอกลับถูกเดินต้อนเข้าไปเรื่อยๆ จนถึงห้องนอนภายใน “อย่าค่ะ” เธอยันอกแกร่งทันทีที่ถูกรวบเอว “ทำไมชอบให้ท่าผู้ชาย...” ไม่ใช่แค่ใส่ความ แต่ปากหยักกลับพรมจูบมาที่ซอกคออย่างถือสิทธิ์ “พี่ห้ามทำแบบนี้” “จะทำ ถ้าต้องการมีผัวสักคน ต้องการแก้เรื่องคัน หรือแม้แต่จะให้ท่าใคร ก็มีสิทธิ์ที่จะทำกับพี่แค่คนเดียวเท่านั้น”
18 yaşına yeni girmiş üniversite sınavına hazırlanan Aylin okulda matematik öğretmeni olan Murat’a aşık olur. Başlarda bu aşkını platonik olarak yaşasa da daha sonra aşkına istediği karşılığı bulur ve hayallerine bir adım daha yaklaşır. Aile yapısı olarak disiplinli bir aileye sahip olan Aylin ideallerini hep ailesini mutlu etmek üzere inşaa etmiş ve bu yönde hep çabalar göstermiştir bunun en büyük sebebi ise Murat’tan ailesine bahsettiğinde Aylin’e karşı engel olmamaları ve Murat’ daha çabuk kabul etmeleri içindir. Babası işleri gereği sürekli şehir dışında olan Aylin evde ablası ve annesi ile vakit geçirir babasının yanlarına geldiği günlerde sadece ailecek vakit geçirecek fırsat buluyordu. Ancak Aylin hayallerinin gerçek olacağı gün tüm ailesinin bir yalan üzerine kurulu olduğunu öğrenir. Sevgilisi Murat’ın ailesi ile tanışmak için Murat’ın büyük yeğeninin düğününe davet edilir, Murat’ın ailesi hakkında çok bir bilgiye sahip olmayan Aylin bu yüzden çok heyecanlıdır, tek bildiği 2 kız yeğeninin olduğu bir tane ablasının oluşu, annesinin eski devlet memuru olduğu babasının ise bir fabrikasının olduğunu ancak babasının biraz sert bir mizaca sahip olduğunu biliyordu. Aylin’in planlarında bu düğünden sonra Murat’ ı kendi ailesi ile tanıştırmak vardı. Murat’ın yeğeninin düğünü için ve orada ailesi ile ilk defa tanışacağı için büyük bir özenle hazırlanır ve ayna karşısında bile provalar yapar. O düğünde hayatının şokunu yaşar çünkü Murat’ın yeğeninin babası aslında Aylin’in babası Ahmet’tir. Aylin babasını karşısında görünce o ortamı tamamen terk eder ve Murat’a bahaneler uydurup intikam babası için intikam planları yapar. Bu olayın aslını öğrenmek için, annesinin ve ablasının bu olay ile bir bağlantılarının olup olmadığını, gerçekleri bilip bilmediklerini araştırmaya başlar eğer onlarda bu gerçekleri biliyorsa ve sadece Aylin kendinden saklandıysa planlarını buna göre yapacaktır. Bütün bu olanların yanı sıra Aylin asla Murat’ı kaybetmek istemiyordu onunla olabilmek için tüm ailesini karşısına alabilir ve hayallerinden vazgeçmeyi göze almıştır. Annesi ile ilgili öğrendikleri ise Aylin’in ona olan tüm güvenini yitirtmiş hayatı ile ilgili yeni kararlar verme yoluna girmiştir.
Lui ~ Un magnat des affaires avec une personnalité sinistre. Il est arrogant, snob, juge les gens sur la base de leur lignée et de leur statut social; croit que toutes les personnes ont un prix et peuvent être manipulées à son avantage. Elle ~ Une jeune fille indépendante avec un zèle indomptable à établir dans sa vie avec son travail acharné qu'elle croit fermement être la seule chose nécessaire pour vraiment faire son nom. Liam et Shelley sont diamétralement opposés. Leurs mondes entrent en collision lorsque Shelley obtient un emploi dans l'entreprise de Liam comme son assistante personnelle. "De la Haine à l'Amour il n'y a qu'un pas."
03-10-2013 Subastian lelaki keturunan india yang ku terima cinta nya... kami menjalin hubungan diam-diam dari keluarga belah pihak,karena agama kami berbeda... Dia menganut Agama Hindu & Aku menganut Agama Islam... Singkat cerita,Kami sudah menjalin hubungan selama 1 Tahun,Akhir nya keluargaku mengetahui... Orangtuaku meminta aku untuk mengakhiri hubungan kami... karena pada saat itu Cinta ku sedang ber api-api,Aku tidak mendengarkan permintaan orangtuaku,segala cara sudah dilakukan orangtuaku agar ku mengakhiri hubungan tsb,namun gagal... dan pada akhirnya orangtuaku merestui... 2 Tahun berjalan hubungan kami masih berjalan baik-baik saja tanpa masalah apapun... 3 Tahun berjalan hubungan kami berjalan dengan bumbu keributan penuh salah paham pihak ketiga yaitu teman-teman nya yang memang tidak menyukai subastian menjalin hubungan denganku... keributan kami tidak membuat hubungan berakhir... 4 Tahun berjalan hubungan kami semakin di terjang masalah yang sama yaitu pihak ketiga,namun beda nya kali ini pihak ketiga nya adalah seorang penggoda ( wanita ),. wanita tsb teman kerja subastian dikantor... wanita tsb menyukai subastian,segala cara bentuk perhatian yang diberikan untuk mendapatkan perhatian balik dari subastian terhadap nya,namun hasil nya nihil tetap tidak menggoyangkan kesetiaan subastian terhadapku... hubungan kami tetap berjalan,meski sering sekali ribut berselisih paham karena wanita tsb tetap tidak membuat hubungan kami berakhir... singkat cerita wanita tsb resaign kerja... Subastian itu pacar yang sikapnya super overprotek terhadapku,super cemburu tidak pandang siapa yang dia cemburui,meski sepupuku,patner kerjaku,atasan kerjaku... Karena aku Tulus mencintainya,aku tidak pernah lelah disikapi semacam itu,tidak menggoyangkan hatiku untuk meninggalkan nya... berpikir mencari pengganti nya pun tidak sedikitpun terlintas dipikiranku... Sudah hampir memasuki 5 Tahun hubungan kami,aku & subastian terlintas untuk membawa hubungan pacaran ini kejengjang pernikahan... kami berdua sadar tidak mudah untuk menikah karena Agama kami & Keluarga kami tidak akan memudahkan niat kami... kami terlintas memiliki pikiran untuk keluar dari Agama kami masing-masing & kami masuk dalam menganut Agama Kristen... Namun Takdir berkata lain... Hubungan kami sedang tidak baik-baik saja saat itu,kami sering ribut cekcok berdebat bahkan sampai unsur kekerasan... Aku mulai pikiran,kenapa segitu parah nya keributan kami... sampai akhirnya aku jatuh sakit... kami pun memilih menjaga jarak terlebih dahulu.. sampai sama-sama sudah tenang,baru bisa bertemu... perasaanku tidak karuan tak jelas,merasakan firasat yang tidak baik terhadap subastian... aku menghubungi subastian tapi dia sulit dihubungi,padahal aku hanya ingin memastikan keberadaan nya ada dimana... akhirnya dengan modal nekat,ku beranikan diri mencari dia disuatu tempat yang ku yakini dia memang berada disana... dalam kondisiku yang sedang sakit,ku pergi sendirian hanya untuk memastikan firasat ku ini salah... Namun apa yang ku dapat ??? sontak lemas kaget perasaan campur aduk tidak menyangka seperti nyata atau hanya bermimpi aku berdiri tepat dihadapan subastian sedang b******u dengan wanita lain... Histeris,yah aku sangat histeris teriak !!! subastian berusaha menenangkan aku,aku teriak menangis disana... aku marah histeris terhadap dia & wanita tsb... aku meminta wanita itu pergi,namun dia diam saja dengan ketakutan melihatku... Tetapi aku tidak melakukan unsur kekerasan,bisa saja aku menampar mendorong wanita tsb... aku hanya menangis sekencang-kencangnya... subastian meminta maaf disaat itu juga,wanita tsb pun sama meminta maaf... apa dayaku hanya bermodal kedewasaan,aku memaafkan mereka berdua... tetapi aku memutuskan hubunganku dengan subastian disaat itu juga... meski disaat itu subastian tidak mau hubungan kami berakhir... karena aku tidak akan pernah bisa menerima kenyataan pahit seumur hidupku mendapati kekasihku b******u didepan mataku sendiri... apalagi jika kami sampai menikah,sangat tidak sanggup aku tersiksa seumur hidup didalam pernikahan terbayang-bayang cumbuan suamiku dengan wanita lain... Aku peluk wanita tsb,aku berterima kasih,karena Allah membukakan mataku melewati perantara wanita tsb,.mungkin ini lah cara Allah menegurku,Allah menyayangiku,Allah tidak ingin aku membuang Agamaku sendiri demi Cinta... Allah masih memberikanku kesempatan untuk bertaubat... Meski aku masih mencintai subastian... aku harus bisa sadar Allah tidak mentakdirkan nya sebagai jodohku... Allah akan mengirimkan jodoh yang aku butuhkan,bukan yang aku mau... sesakit apapun hatiku atas pengkhianatan yang aku dapatkan,hidup harus terus berjalan... disakiti oleh kekasih bukan berarti berakhir hidupku... ini baru permulaan untuk hidupku,mendapatkan pembelajaran yang berharga... akan menjadikanku pribadi yang lebih kuat iman & lebih dekat kepada Allah,mendengarkan nasehat orangtua❣ memperbaiki diri dihadapan Allah❣ Bersyukur Allah sangat menyayangiku❣
When the middle African regions are ravaged by a deadly disease outbreak of unknown origin, the World Health Organisation gets very concerned about the possibility of the outbreak spreading to the rest of the world. It decides to send its top experienced scientist Professor Brutch Bulchi on the ground to find a cure and stop the spread of the outbreak, but Brutch’s determination of finding a cure results in him falling sick himself. During this time of sickness, his long-time colleague Professor Madeleine Welsh seizes the opportunity to shine and be the champion of the outbreak. The World Health Organisation doesn’t know whether it should wait for its top scientist Brutch to recover or support Madeleine but the outbreak doesn’t wait for the World Health Organisation’s decision. Death toll and new infection rate are increasing on a daily basis. An alternative solution for a cure is desperately needed while the World Health Organisation is still divided between waiting for Brutch’s recovery and supporting Madeleine. During this desperate moment, the local health authorities decide to take matter in their own hands. Will it be Brutch, Madeleine or the local health authorities to find a solution to this fatal disease outbreak of unknown origin?
Três anos, 36 meses, é tempo suficiente para decidir se uma vida vale a pena? Em Mythibury talvez. Lá, a cada três anos acontece o que os moradores chamam de Escolha em que uma pessoa é escolhida pela guarda pessoal do príncipe imortal e levada para Framedon, e nenhuma delas jamais retornara. Em 1822, três dias após seu aniversário de 20 anos Gobin Speir foi o escolhido, recebendo a carta dourada com a insígnia da família real lhe dando 24 horas para se preparar. Ele teve de abandonar sua simples, mas amada, vida e todos os sonhos que tinha, até mesmo sua noiva, para servir ao tal propósito imortal. Mas o que nem ele, nem nenhum outro cidadão esperava era que a noiva pudesse enfrentar aquele destino. Aurora era uma garota determinada e estava cansada de ver seu reino se destruir a cada 36 meses para agradar um monstro. Então ela decidiu que traria Gobin de volta para casa e nem mesmo se importava se trouxesse a cabeça do sádico imortal como símbolo da vitória. Porém, meses também podem servir para abrir os olhos, não é?
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.