“ทำไมไม่กลับห้องไปกับเด็กอีกแล้วใช่ไหม?” “…” “ตอบพี่มาเดี๋ยวนี้นะเทน!” มือเล็กกระชากแขนใหญ่สีซีดขาวด้วยความแรงเพื่อให้เขาได้หันหน้ามาคุยกันให้รู้เรื่องในคดีที่ก่อเอาไว้เมื่อคืนนี้ สายตาสีน้ำตาลเข้มพยายามสบสายตาสีเทาหม่นด้วยอารมณ์ที่คุกกรุ่นยากจะกู่กลับมา “ไปไกลๆ ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ น่ารำคาญ...” “อ๋อ! คงกินเชอรรี่อิ่มแล้วสิถ้างั้นออกไปหากินผู้ชายบางดีกว่า..” ริมฝีปากแดงจัดยิ้มเหยาะออกมาอย่างเปิดเผยเสมือนว่าไม่แคร์อะไรทิ้งสิ้น ในเมื่อผัวมีได้ทำไมเมียจะมีมั้งไม่ได้....มันก็แค่ชู้ว่าแล้วเธอก็ค่อยๆ ปลดผ้าคลุมตัวบางที่คลุมร่างอันเปลือยเปล่าออกร่วงตกสู่พื้นทันทีต่อหน้าชายหนุ่มหล่อ “แต่แน่ใจหรอว่าไม่อยากทำ ดูเหมือนหิว..โซนะ?”
ผัวะ! เสียงของกำปั้นที่ส่งออกเข้ากระทบกับใบหน้าเข้มอย่างหนักหน่วงจนทำให้ชายดังกล่าวร่วงหล่นเซลงไปไม่นานนักสิ่งที่เป็นผลตามนั่นก็คือของเหลว มีกลิ่นคาว ชายคนนั้นเช็ดออกอย่างลวกๆ ก่อนจะใช้สายตาของตัวเองมองไปสบกับดวงตาสีรัตติกาลของบุรุษที่ยังยืนอยู่ตรงหน้าของเขา “ชั้นขอเวลาสักนิดจะคืนให้ทั้งต้นและดอก” “น่าเสียดายที่มึงใช้สิทธินั้นหมดไปแล้ว” ประโยคแรกที่บุรุษตรงหน้าเปล่งเสียงอันเยือกเย็นผสมกับความหนักแน่นและเด็ดขาดออกมา เขาจะแสยะยิ้มส่งมาให้เป็นการสมเพช “มันถึงเวลาที่มึงจะต้องชดใช้ให้กู!” ใบมีดอันคมกริบออกมาจากข้อเท้าของตัวเองก่อนที่จะควงในมืออยู่แบบนั้นอย่างไปมาเพื่อไม่เป็นการเสียเวลามากนักขอแนะนำตัวเลยแล้วกัน ผมชื่อ “ซัน” หนึ่งในกลุ่มที่ทุกๆ คนต่างขานนามให้เรียกว่า 7V หรือคำที่ได้ยินติดหู 7 วายร้าย
“ขึ้นรถ” ไร้เสียงตอบรับจากคนอย่างฉันนอกเหนือจากได้ยินปลายเท้าก็รีบสาวก้าวเร่งความเร็วให้ถี่ขึ้นเพื่อจะได้หลุดพ้นจากเขาเสียที การเดินเหยียบฟุตบาทที่ข้างตัวมีเลกซัสสีดำคันหรูแนบข้างเคลื่อนไปด้วยมันไม่ดีนักหรอกนอกจากเรียกสายตาจากคนหมู่มากให้เข้ามามองจากนั้นคนพวกนั้นก็ซุบซิบกันเม้าท์สนุกปาก “ทำไมดื้อวะ บอกให้ขึ้นรถร้อนตายห่าอยู่แล้วอยากดำหรือไง” เสี้ยวนาทีใบหน้าฉันเหวี่ยงไปมองผู้ชายที่ลดกระจกรถลงทำคิ้วขมวดหัวเสีย จมูกโด่งยิ่งกว่าสันเขื่อนนั้นอยากทุบออกชิบหายเมื่อเจอนัยน์ตาคมตวัดแลมองเหมือนกำลังจะลงมาบีบคอฆ่าให้ตาย “ขึ้นมาเดี๋ยวไม่สบาย อยากแดกยาหรือไง” “จะไปไหนก็ไป” “น้ำตาล” พอเขาเค้นเสียงต่ำสื่อบอกว่าความอดทนกำลังจะหมดแล้วแค่นี้ทุกอย่างก็หยุดชะงักแม้แต่ตัวฉันเองก่อนที่จะหันหน้าเข้าไปเผชิญกับคนที่อยู่บนรถ จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าไม่ขยี้ จะไม่เป็นอะไรเลยถ้าเขาไม่เป็นชนวนของเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้เมื่อก่อนหน้า “อย่าทำเป็นเรื่องใหญ่” “หึ... งั้นก็ฝากไปตบอีนั่นคืนด้วย” พูดเสร็จก็เอียงอีกซีกใบหน้าให้ดูจากนั้นก็ยิ้มเหยียดให้ไอ้คนที่อยู่ในรถเพราะคงยังไม่เห็นหรอก “แหกหูแหกตาดูด้วยว่าที่มันฟ้องย้อนแย้งกับสิ่งที่ทำแค่ไหน” “จะทำให้โอเคมั้ยแต่ตอนนี้ขึ้นมาได้แล้วมีโอริโอ้ปั่นอยู่ในรถพร้อมแอร์เย็นฉ่ำรอแล้วนะเพียงแค่ก้าวขึ้นมา” “ง้อเหรอ คนอย่าง สายฟ้า รัตติกาล อักษรสิทธิ ใช้คำว่าง้อกับคนอื่นเป็นด้วย” “เออง้อ ได้ยินแล้วจะขึ้นรถได้ยัง”
ได้ชื่อว่าการกลับมามักเป็นสิ่งที่คนรอปรารถนา ต้องดีใจแต่ในโลกของฉันมันไม่ใช่ ไม่ว่าจะออกไปหรือกลับมามันคอยสร้างความเจ็บปวดใจให้อีกคนเสมอ คำลาอย่าถามเพราะมันไม่มี การรออย่าหวังเพราะฉันไม่ให้ “ผัวมาตาม จะกลับได้ยัง?” มันเปล่งถ้อยคำบ้าๆ ตัดหน้าไปขณะที่มีผู้ชายคนหนึ่งมาขอไลน์ฉัน ท่อนแขนแกร่งถูกใช้ยกขึ้นมาโอบหัวไหล่ก่อนออกแรงกระชับเข้าชิดอกใหญ่ เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของตัวฉัน ไม่มีใครหน้าด้านหน้าหนาเท่ามันอีกแล้วไอ้กุน แฟนเก่าสมัยมัธยมที่มันยังตามวุ่นวายชีวิตฉันไม่ห่างจนถึงปีสอง! “โสดรัวๆ ผัวเก่าตายแล้วค่ะพี่”
ตึก ตึก เสียงส้นรองเท้าสูงกระทบพื้นเป็นจังหวะการเดินที่ไม่รีบเร่งแต่มันกับแฝงความหนักแน่นเอาไว้ ปลายรองเท้าแหลมถูกบังคับเข้าไปยังตึกหนึ่งลักษณะใหญ่โตสมฐานะสถานที่หลายคนใฝ่ฝันอยากเข้ามาถึงจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งก็ตาม เพียงไม่นานปลายเท้าก็หยุดลงมือเรียวขาวจนเห็นเส้นเลือดยื่นออกไปพร้อมกับกระดาษจำนวนหนึ่ง เล็บยาวแต่งแต้มด้วยสีแดงสดสะท้อนกับสีขาวของกระดาษทำให้คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าอึ้งไปชั่วครู่อีกทั้งยังมองมาด้วยสายตาดูถูก นัยน์ตาจำนวนนี้มองแป๊บเดียวก็รู้ว่าภายในหัวสมองคิดอะไร “เอกสารครบใช่มั้ย?” ริมฝีปากเรียวเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงสดถามขึ้นและชักมือกลับไปกอดอกทว่าคู่สนทนาไม่ตอบหันใบหน้ายกริมฝีปากเหยียด “ครบแต่ต่อไปจะมาติดต่อควรรับรู้มารยาทด้วยว่าควรแต่งตัวแบบไหน แต่งหน้าโทนไหนและใช้ภาษากับเจ้าหน้าที่เช่นไร” “มาสมัครเรียน ไม่ได้มาดัดสันดาน...”
เพล้ง! เสียงวัตถุอย่างหนึ่งกระทบพื้นแตกเป็นเสียงดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องคอนโด ต้นเสียงนั้นทำให้ชายหญิงคู่หนึ่งซึ่งอยู่บนเตียงพร้อมกับร่างกายที่เปลือย ทั้งสองต่างหันหน้าไปทางต้นเสียงนั้นอย่างพร้อมเพียงกันราวกับถูกเรียกชื่อ... “นี่.. มันอะไรกันวี” ฉันมองทั้งสองคนด้วยสายตาที่ผิดหวัง สายน้ำตามันพรั่งพรูออกมาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งที่ทั้งคู่คนหนึ่งก็เป็นแฟนคนแรกส่วนอีกคนก็เป็นเพื่อนรักแต่ฉันไม่คิดว่าทั้งสองจะทำเหมือนฉันเป็น ควาย!
ระหว่างเราหมั้นกันตอนอายุ 15 จากนั้นคู่หมั้นฉันก็หายตัวเข้ากลีบเมฆ วันเวลาลุล่วงจนฉันอายุ 18 กำลังเรียนจบมอปลาย เชื่อไหมว่าเขากลับมา "งานแต่งจะมีขึ้นก่อนน้อยใจจะเข้าเรียนมหาลัยครับ" เรื่องแรกที่ออกจากปากเขาคือการแต่งงาน เขากลับมาเพื่อสิ่งนี้ ในฐานะเจ้าบ่าวของฉัน "พี่กวางแน่ใจเหรอที่จะทำแบบนี้" "ถ้าเรื่องแต่งงานพี่แแน่ใจแล้วก็มั่นใจมากเลยแหละ"
ในเมื่อ"เร็น"เลือกการกักขัง ทางที่ฉันควรเลือกก็คือการหนีจากเขาไป ถ้า"เร็น"เลือกการออกล่า ทางที่ฉันควรเลือกก็คือการซ่อนตัวให้ปลอดภัย โดยปราศจากการพบเจอเขา ไม่มีสถานะระหว่างเราแต่ทางกายมันเกินเลยยิ่งกว่าคนอื่นจะมาเข้าใจ! ความเจ็บปวดเข้ามาเล่นงานฉันเรื่อยๆ ทั้งหมดเกิดขึ้นเพียงเพราะสัตว์ร้ายที่มันเข้ามาครอบงำจิตใจเขา "คงไม่แปลกเท่าไหร่ที่จะเลือกหนี" "หนีได้หนีไปเจอเมื่อไหร่จะเอาให้ตาย...คาเตียง"
ภายในคืนพระจันทร์เต็มดวงรอบตัวเงียบสงัดไร้เสียงผู้คนสัญจร ตึก ตัก ตึก ตักทว่าทำไมฉันถึงตั้งหน้าตั้งตาวิ่งอย่างไม่ลืมหูลืมตาออกมาจากม่านรูดบ้านั่นทั้งที่สภาพไม่เอื้ออำนวยมากเท่าไหร่นัก น้ำตาไหลรินออกมาตลอดทางฝ่ามือของตัวเองกอดลูบผิวไปมาเพื่อปลอบโยนว่าไม่ได้เกิดอะไรขึ้นทั้งที่ความจริงกับเดินสวนทางกันลิบลับ สิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นผลมันส่งมาถึงยังวันนี้... “เอาตังค์มานังซานมีเท่าไหร่ก็เอามาให้หมด อย่าคิดอุบไว้เชียวเห็นแก่ความหน้าด้านหอบลูกมาอยู่กับคนอื่นบ้าง มีอย่างที่ไหนให้เป็นขี้ปากชาวบ้านอับอายกันไปทั้งบ้านกับไอ้คำว่าท้องไม่มีพ่อเนี่ย!” “ใจแตกตั้งแต่อายุ 17 จบก็แค่มอสามแถมมีลูกติดพ่วงให้เป็นภาระใครเขาจะเอาไปทำเมียต่อ” “ป้า... พี่ฝ้าย...” “หรือมันไม่จริงเอาหน้าผัวแกมาดูดิไอ้ที่มันทำแกท้องไม่พ่ออ่ะ!” หญิงสาวมองเหยียดด้วยหางตาอีกทั้งยังยกริมฝีปากทำรังเกียจ “ติดตัวมันไม่มีหรอกแม่แต่ในไอ้นี่มันมี อีซานมันฝากเอาไว้ มึงไปถอนมาถ้าไม่อยากให้ลูกมึงเจ็บตัว!”
‘พรมลิขิต’ มนุษย์ทุกคนล้วนอยากเจอเพราะคิดว่ามันเป็นสิ่งสวยงาม แต่ใครจะไปรู้ว่าภายใต้คำนี้อาจมีคำอื่นๆ ซุกซ่อนอยู่ และนี่ก็คือความคิดของฉัน... เมื่อได้เจอกับเขาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อนเก่า... “คำสั่งมีไว้ให้เธอทำตามไม่ใช่เหรอขิม อยากได้ไม่ใช่หรือไงเงินน่ะ” “เงิน เงิน เงิน อะไรในโลกนี้มันต้องใช้เงินซื้อหมดหรือยังไง!” ชีวิตบ้าๆ ของฉันจะสงบเหมือนคนอื่นไม่มีทางหรอกเพราะหนีไม่พ้นกับคำว่าเงิน “ถามตัวเองดูสิเพราะแม้กระทั่งเธอ เงินยังซื้อได้เลย”
“เคยบอกแล้วไม่ใช่ไงว่าอย่าเสนอน้ำตามาให้เห็น?” ยิ่งเมื่อฉันไม่ตอบความแรงจากฝ่ามือของเขาก็ส่งมาเรื่อยๆ จนใบหน้าสวยเกรงบิดเบี้ยวเจ็บปวด “ฉะ ฉันเปล่าร้องไห้” “ชั้นตาบอดเหรอ?” น้ำเสียงทุ้มเค้นออกมาพร้อมแววตาที่ยากหยั่งถึงสี่พยางค์ตรงๆ ง่ายๆ ถูกส่งไป “หรือว่าเห็นว่าโง่?” “...” “ตอบมิชา” “โอ้ย!” นิ้วมือใหญ่บีบเค้นจิกลงบนเนื้อแขนของฉันสุดแรงและเป็นอย่างที่เขาอยากให้เป็นในเมื่อตัวฉันมันทนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นไม่ไหวจนถึงต้องเปล่งเสียงร้องที่มีความเจ็บปวดออกมา “ฉันร้องไห้พอใจหรือยัง”
“ปล่อยแม่นะคะคุณป้า!” “มาแล้วหรอนังตัวดีไปทำเรื่องที่สั่งซะไม่งั้นชั้นไม่รับประกันความปลอดภัยของคนที่แกรักนักหนาคนนี้!” ฉันวิ่งเข้ามาหาแม่จนเกือบถึงตัวท่านแต่ดั้นถูกรั้งไว้ด้วยลูกน้องคุณป้า เมื่อมองทอดสายตาไปทางด้านหน้าภาพที่เห็นคือแม่ตัวเองถูกปืนจ่อหัวจากคนที่เป็นพี่แท้ๆ เพียงเพราะเรื่องธุรกิจของท่านที่กำลังจะล้มละลายเนื่องจากโดนคู่แข่งแซงหน้าท่านจึงบังคับฉันให้เข้าไปสอดแนมทั้งๆ ที่ฉันปฏิเสธมาตลอด “หนูยอมแล้วยอมทุกอย่าง คุณป้าอย่าทำอะไรคุณแม่นะคะ” ฉันก้มหน้าพนมมือไหว้คนที่อยู่ตรงหน้า
“ซีเจนอย่าเป็นอะไรไปนะลูก” ฉันนั่งร้องไห้พร้อมกับเฝ้าภาวนาเบาๆ ด้วยความเป็นห่วงอย่างสุดหัวใจอยู่หน้าห้องฉุกเฉินในโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งของเมืองหลวงแต่สิ่งที่พร่ำภาวนากับไม่เป็นจริงเมื่อหมอเปิดประตูเดินออกมาอีกแล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษด้วยครับเลือดของคุณแม่จากที่ทางโรงพยาบาลตรวจสอบแล้วไม่สามารถใช้กับเด็กได้ครับทางเราจึงต้องจำเป็นหาเลือดให้ด่วนที่สุด คุณพอจะมีญาติที่ไหนบ้างครับ?” คำตอบที่ได้รับมันทำให้ฉันทรุดตัวลงทันทีพร้อมกับน้ำตาที่หลั่งไหลออกมาเป็นสาย ทำไมต้องเกิดขึ้นกับลูกของตัวเองด้วยยิ่งไม่มีญาติที่ไหนอีกจะไปขอเกล็ดเลือดมาจากใครหรือว่า พ่อของซีเจน....
“เงินอยู่บนหัวเตียงรีบเอาแล้วไสหัวไปซะ” น้ำเสียงอันราบเรียบพูดขึ้นมาหลังจากที่ใส่เพียงแค่ชุดคลุมสีขาวเผยให้เห็นแผ่นอกใหญ่แกร่งดูเซ็กซี่เข้าไปอีกเมื่อมีหยดน้ำเสริมเกาะตัวแพรวพราว ชายผู้นี้พึ่งเดินออกจากห้องน้ำมาแต่นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มที่แสดงออกมาพร้อมกับเสียงพูดนั้นไม่สามารถบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าตัวคิดอะไรอยู่ “อะไรกันคะแวนเดอร์ เมื่อกี้เรายังสนุกกันอยู่เลย” เสียงใสปรนกับความดัดจริตเปล่งออกมาอย่างทันท่วงทีเมื่อเห็นว่าจบประโยคที่ชายหนุ่มพูดแล้ว มีเพียงแววตาแห่งความเสน่ห์หาเท่านั้นที่เธอส่งไปยั่วอารมณ์ของชายตรงหน้าในขณะที่หญิงสาวผู้นี้กำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยสภาพที่เปลือย ไม่คิดเลยว่าเซ็กส์ของเขาที่มอบให้มันช่างร้อนแรงและยังทำให้เธอติดใจเป็นบ้า “สนุก อย่างเธอเนี้ยสนุกมากี่คนแล้ววะที่พามาเห็นว่าผู้หญิงอย่างเธอมันง่ายแค่นั้น ของที่มาง่ายๆ มักไม่มีอะไรให้น่าค้นหาครั้งเดียวก็เกินพอแล้วมั้ง บอกให้รีบออกไป” กรี๊ด! “นี่คุณหลอกฟันแอมมี่!” “จุ๊ๆ ถ้าคิดจะแรดก็ไม่ต้องมาแอ๊บปกปิดเพราะความดัดจริตมันซ่อนยังไงก็ไม่มิดหรอกวะ เชิญ!”
“ป่วนครอบครัวคนอื่นพอยัง?” “มันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของฉัน..” “…” “หึ! เงียบทำไมล่ะไม่เจอกันนานนายยิ่งพูดน้อยลง” “แล้ว?” ผมมองหน้าเมญ่าที่เชิดขึ้นอย่างดื้อรั้นเอาแต่ใจทั้งๆ ที่รู้ว่ามันเป็นสไตล์เด็กนอก “เธอเกี่ยวอะไร?” “ก็กลัวว่านายจะเป็นใบ้ก่อนหาเมียได้ไง” โจเนสตั้งใจว่าให้ฉันเสือก! “ห่วงตัวเองเถอะ” “ทำไมฉันต้องห่วง?” “อีกมันนานอาจโดนถอนหมั้นไม่ใช่ถอนธรรมดา ถอนแบบเอาเธอแทบช็อคด้วยเพราะมันอาจมีของแถมเช่น เมียและลูกของไอ้ซันไง!”
ยามรักน้ำต้มผักก็ยังหวาน พอผ่านไปไม่ถึงปีไอ้คนดีมันกับออกฤทธิ์แล้ว นิสัยธรรมดาโลกอาจไม่จำ คู่เวรคู่กรรมอย่างฉันกับมันถึงต้องสู้กันเอง "บอกให้กลับบ้านกลับช่องไม่ใช่ไปซ่องหาสาว!" "เธอบอกไม่เคลียร์เองอย่าโทษกัน" ทุกวันมันก็เป็นแบบนี้น่าเบื่อหน่ายหยุดก็แพ้ตามก็เหนื่อย ไม่มีอะไรพอดีกับชีวิตฉันสักนิด โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย อย่าให้ฉันใช้ไม้ตายสุดท้ายนะไอ้ผัวเฮงซวย รับรองถ้ายังไม่กลับก็... "จะให้บอกลูกว่าไง พ่อกำลังจะหาแม่ใหม่ให้งั้นเหรอ?"
“อือ...พี่หนูบอกพร้อมแล้วงาย....” การมีผู้หญิงมาถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้แล้วความจริงมันโคตรดีที่สุดเลยก็ว่าได้ถ้าไม่มาในสถานการณ์ที่ผมกำลังหัวเสียอยู่แบบนี้ ผมลุกขึ้นก่อนออกแรงตวัดผู้หญิงคนดังกล่าวเข้ามาในอ้อมกอด “นี่เธอ!” “เธอหนาย....” เสียงหวานลากยาวจากนั้นก็ชี้นิ้วมือเข้าหาตัวเอง “นี่ๆ นี่วิตตาต่างหาก” “…” “พี่หนูพร้อมแล้ว...” “เออดี กูจะพร้อมแล้วอารมณ์จะดีกว่านี้ถ้าไม่โดนไอ้พวกนั้นปล่อยยางแบนขนาดนี้” แต่รอยยิ้มหลังจากที่พูดประโยคนี้ออกมามันกลับตรงกันข้าม “แน่ใจว่าให้สนอง?”
"เฮ้ยๆ ไอ้ทางโน้นว่ะ ออร่าสัสๆ" "ก็ไม่เท่าไหร่" ก็แค่เด่นสะดุดตา ก็แค่ขาวซีดเหมือนกระดาษ ก็แค่ริมฝีปากแดงเรียกสายตา "มั้ง" "แต่ดูท่าเมาแล้วจะโคตรเซ็กซี่แน่ๆ" "อ่อเหรอ" ริมฝีปากผมกระตุกขึ้นตามมาด้วยรอยยิ้มเหยียดอย่างเช่นทุกครั้งที่ได้ยินอะไรจำพวกนี้ ในวงเหล้ากับกลุ่มเพื่อนที่ไม่สนิทกันอะไรขนาดนั้น "หลายสายตาจ้องน้องเขาคนเดียวเลยว่ะ" "ชอบก็จีบ" ผมพูดขึ้น "สวยอย่างนางฟ้า ลลองเหล้าเข้าปากขึ้นมาคราบนางฟ้าได้หายไปแน่"
เพล้ง! แรงเหวี่ยงกระป๋องน้ำมันไปไกลจากตัวเองด้วยแรงมหาศาลยิ่งเป็นการเพิ่มความเถื่อนสู่สายตาทุกๆ คนที่จับจ้องดูการกระทำของเขาอยู่ สาวสวยหลายคนต่างส่งเสียงกรี๊ดด้วยความชอบใจ “เฮ้ย! หล่ออ่ะยัยลูกหยีผู้ชายอะไรยิ่งดูยิ่งหล่อ” เสียงเล็กแหลมพูดขึ้นกับเพื่อนท่ามกลางผู้คนกลุ่มใหญ่ที่กำลังมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้หญิงที่มีลักษณะตัวเล็กๆ ผมสีน้ำตาลทองยาวจรดกลางแผ่นหลังจมูกเล็กที่แสนโด่งรับกับใบหน้าอย่างพอดี ถึงจะไม่ค่อยสวยมากนักแต่ก็น่ารัก “จะบ้าเหรอเรเนสพูดมาได้ไงหะ!” “ก็มันจริงนิแกอย่าหัวโบราณสิระวังเป็นไดโนเสาร์เต่าล้านปีนะแล้วจะหาว่าเพื่อนไม่เตือน!”
Dear Reader, we use the permissions associated with cookies to keep our website running smoothly and to provide you with personalized content that better meets your needs and ensure the best reading experience. At any time, you can change your permissions for the cookie settings below.
If you would like to learn more about our Cookie, you can click on Privacy Policy.